fbpx
Homeทิปส์ท่องเที่ยวขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ทำไงบ้าง เลิกตื่นเต้น..มาเตรียมตัวให้พร้อมกันดีกว่า!

ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ทำไงบ้าง เลิกตื่นเต้น..มาเตรียมตัวให้พร้อมกันดีกว่า!

Klook.com
- Advertisement -
- Advertisement -

การขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ไม่ใช่เรื่องที่น่าอาย แต่ก็อาจจะเป็นเรื่องที่น่าวิตกกังวลสักหน่อย ซึ่งครั้งแรกของผม มันก็น่าตื่นเต้น และน่ากังวลมาก ๆ เช่นกัน โดยเฉพาะการเดินทางไปเที่ยวคนเดียว ดังนั้นวันนี้ผมจะอธิบายวิธีการขึ้นเครื่องบินแบบง่าย ๆ อย่างละเอียด ให้กับทุก ๆ คนได้เข้าใจและเตรียมพร้อมกับทริปที่กำลังจะมาถึง จะได้ไปเที่ยวกันอย่างไม่ต้องกังวลครับ (สำหรับใครที่รู้แล้ว มีประสบการ์แล้ว ก็ข้ามไปได้เลยคร้าบบ)

ก่อนอื่นจะต้องเข้าใจก่อนว่า การขึ้นเครื่องบินสามารถแยกได้เป็นสองประเภทคือ

  1. การเดินทางในประเทศ หรือ Domestic Flight ซึ่งสิ่งที่จำเป็นที่สุดก็คือบัตรประชาชน
  2. การเดินทางระหว่างประเทศ หรือ International Flight และสิ่งที่จำเป็นที่สุดก็คือ หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) และสำหรับประเทศที่ต้องการวีซ่า ก็ต้องมีวีซ่าเข้าประเทศนั้น ๆ ด้วย

สิ่งที่ควรรู้เมื่อจองตั๋วเครื่องบิน

สายการบินที่ให้บริการทั้งในประเทศ และระหว่างประเทศมีหลายสายการบิน ซึ่งภายในประเทศหลัก ๆ ก็จะมีแอร์เอเชีย (Air Asia) นกแอร์ ไลอ้อนแอร์ บางกอกแอร์เวย์ การบินไทย เป็นต้น ซึ่งแต่ละสายการบินมีความต่างกันตรงที่บริการและค่าใช้จ่าย ตัวอย่างเช่น

  • Air Asia เป็นสายการบินชั้นประหยัด ดังนั้นค่าใช้จ่ายในการบินกับ Air Asia จะไม่รวมค่าอาหารและค่าโหลดกระเป๋า แต่สำหรับการบินไทยซึ่งเป็นการบินแบบ Full Service ค่าบริการก็จะรวมค่าอาหารและบริการโหลดกระเป๋า ก็จะมีรายละเอียดคร่าว ๆ คือ
  • ชั้นธุรกิจ (Royal Silk Class) 40 กิโลกรัม (88 ปอนด์)
  • ชั้นประหยัดพิเศษ (Premium Economy Class) 30 กิโลกรัม (66 ปอนด์)
  • ชั้นประหยัด (Economy Class) 30 กิโลกรัม

ดังนั้นถ้าหากเพื่อน ๆ เดินทางและมีสัมภาระเยอะ ก็ลองคำนวณค่าใช้จ่ายดังกล่าวด้วยนะครับ

สัมภาระต่าง ๆ

สายการบินทุกสายการบิน จะให้เพื่อน ๆ สามารถลากกระเป๋าขึ้นเครื่องได้ หรือเรียกว่า Carry On โดยมีน้ำหนักต้องไม่เกิน 7 กิโลกรัม และกระเป๋าสะพายใบเล็ก ๆได้อีกหนึ่งใบ

และถ้าหากต้องการนำของเหลวขึ้นเครื่อง ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ระบุว่า ของเหลว เจล สเปรย์ หรือวัตถุและสารอื่น ๆ กรณีเป็นของส่วนตัว หากต้องการนำติดตัวขึ้นเครื่องบิน ต้องบรรจุในภาชนะที่จุไม่เกิน 100 มิลลิลิตร (โดยมาตรการนี้ดูที่ขนาดของบรรจุภัณฑ์เป็นหลัก) ถ้าหากขวดใหญ่เกิน 100 มล. แต่ของเหลวมีน้อยกว่า ก็ไม่ได้รับอนุญาตินะครับ แนะนำให้ไปซื้อขวดเล็ก ๆ ที่ Daiso หรือ Muji เพื่อใส่ดีกว่า

และที่สำคัญต้องห้ามนำของมีคม วัตถุไวไฟ อาวุธ ถือขึ้นเครื่อง เด็ดขาด

การพกแบตสำรอง

การพกแบตสำรอง คุณไม่สามารถโหลดแบตสำรองลงไปในกระเป๋า ที่จะไว้ใต้เครื่องได้ คุณจะต้องใส่ลงไปใน Carry on ของคุณ โดยมีกำหนดดังนี้

  • แบตสำรอง/power bank ขนาดความจุไฟฟ้ามากกว่า 32000 mAh ไม่ได้รับอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องทุกกรณี
  • แบตสำรอง/power bank ความจุไฟฟ้าอยู่ที่ระหว่าง 20000 – 32000 mAh สามารถนำขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 2 ก้อน
  • แบตสำรอง/power bank ความจุไฟฟ้าต่ำกว่า 20000 mAh สามารถนำขึ้นเครื่องได้ไม่จำกัดจำนวน

ข้อมูลการจองการเดินทาง

เมื่อจองตั๋วเครื่องบินเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทุกท่านต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่าข้อมูลการจองถูกต้องหรือไม่ เช่น ชื่อผู้โดยสาร เวลา และวันที่เดินทาง สายการบิน และสนามบิน

ถ้าหากมีข้อผิดพลาดในการจอง ต้องติดต่อสายการบินเพื่อเปลี่ยนข้อมูลโดยด่วนครับ ไม่เช่นนั้น ถ้าหากไปจนถึงสนามบิน ก็อาจจะถูกปฏิเสธให้ใช้บริการก็เป็นได้

ก่อนวันเดินทาง

โดยปกติแล้ว ผู้โดยสารสามารถเช็คอินล่วงหน้าก่อนวันเดินทางได้ หมายความว่า ก่อนวันเดินทางผู้โดยสารจะต้องใช้หมายเลขการจอง และเข้าไปยังเว็บไซต์สายการบิน และทำการเช็คอินเพื่อเป็นการยืนยันว่าในวันเดินทาง คุณจะเดินทางอย่างแน่นอน

สำหรับสายการบินบางบริษัท อย่างเช่น Air Asia บางเที่ยวบิน เมื่อหากคุณเช็คอินผ่านทางออนไลน์เรียบร้อยแล้ว คุณจะได้รับ บอร์ดดิ้งพาส (Boarding Pass) ซึ่งใช้สำหรับขึ้นเครื่องบินเลย

“Boarding Pass คือเอกสารที่ออกโดยสายการบินเพื่อเป็นการอุนญาติให้ผู้โดยสารสามารถผ่านเข้ามายังเขตที่ได้รับการควบคุมของสนามบิน เพื่อโดยสารไปยังจุดหมายปลายทางที่กำหนดไว้ใน Boarding Pass นั่นเอง”

คำถามสำคัญ

1. คุณมีกระเป๋าสำหรับโหลดใต้เครื่องหรือไม่? 

ถ้าหากคุณมีกระเป๋าที่ต้องโหลด คุณจะต้องไปที่เคาน์เตอร์ เพื่อโหลดกระเป๋า ไม่ว่าจะกรณีใดก็ตาม 

การเดินทางในประเทศ

1. เตรียมบัตรประชาชน ใบขับขี่ให้พร้อม

2. หากเช็คอินออนไลน์มาแล้ว และมี Boarding Pass แบบออนไลน์แล้ว สามารถเดินผ่านเข้าไปตรวจสัมภาระและไปรอที่ Gate ที่กำหนดไว้บน Boarding Pass ก่อนเวลา Boarding 30 นาที

3. หากไม่ได้เช็คอินออนไลน์ ให้ไปที่เคาน์เตอร์ หรือเครื่อง self-check in เพื่อเช็คอินและปรินท์ Boarding Pass แล้วเดินไปตรวจสอบสัมภาระและรอที่ Gate ตามที่กำหนดไว้บน Boarding Pass ก่อนเวลา Boarding 30 นาที

*** เคาน์เตอร์เช็คอินสำหรับภายในประเทศจะปิด 45 นาทีก่อนรอบบิน

การเดินทางระหว่างประเทศ

  1. เตรียมหนังสือเดินทางและวีซ่าให้พร้อม
  2. หากเช็คอินออนไลน์มาแล้ว ให้ตรวจสอบว่า Boarding Pass ออนไลน์สามารถใช้และเข้าไปรอที่ Gate เลยได้หรือไม่ ถ้าหากไม่ได้ ให้พบกับเจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์ เพื่อรับ Boarding Pass ตัวจริง
  3. ถ้าหากยังไม่ได้เช็คอินออนไลน์ หรือมีกระเป๋าที่ต้องโหลด โดยปกติแล้วเคาน์เตอร์จะเปิดให้เช็คอิน 3 ชั่วโมงก่อนเดินทาง และปิดเคาน์เตอร์ก่อน 60  นาที ก่อนเดินทาง

    ดังนั้นถ้าหากคุณมี Flight ไปต่างประเทศ เวลา 18.00 น. คุณควรเผื่อเวลาให้มาถึงสนามบิน 3 ชั่วโมงก่อนหน้า ก็คือ 15.00 น. (โดยประสบการณ์ส่วนตัว ผมจะไปถึงสนามบิน 2-3  ชั่วโมงก่อนหน้า เนื่องจากว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินอย่างเช่น คนต่อแถวโหลดกระเป๋ายาวมาก ๆ หรือมีปัญหาเรื่องตั๋ว ก็จะได้แก้ไขได้ทันเวลา )

*** ย้ำนะครับ การเดินทาง คุณจะต้องดูที่ Boarding Time ไม่ใช่ดูที่ Flight Time หมายความว่า Boarding Time จะให้คนเริ่มทยอยเข้าเครื่องบิน ซึ่งส่วนมาก จะใช้เวลา 20 นาทีก่อนเครื่องออก เคยได้ยินมาหลายเคสแล้ว ว่าอ่านเวลาเครื่องบินเป็น 15.00 แล้วก็มาที่หน้าเกต 15.00 จริง ๆ ก็ต้องตกเครื่องนะสิ เพราะเค้าทยอยเข้าเครื่องไปกันหมดแล้ว

4. เมื่อได้รับ Boarding Pass ก็จะต้องเข้ามาข้างใน เพื่อตรวจสอบสัมภาระ ว่านำสิ่งแปลกปลอมเข้ามาหรือเปล่า อย่างที่แจ้งไว้ข้างบน คือห้ามนำเอาของเหลวที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่มีขนาดมากกว่า 100 มิลลิลิตรขึ้นเครื่อง และห้ามนำของอันตรายต่าง ๆ มาด้วย

5. เมื่อผ่านการตรวจสัมภาระเสร็จแล้ว สำหรับไฟลท์ระหว่างประเทศก็จะเป็นการตรวจ Immigration ซึ่งถ้าหากเป็นคนไทยออกไปต่างประเทศ ปัจจุบันก็จะสะดวกมากแล้ว เนื่องจากมี Auto gate ที่คุณสามารถจัดการด้วยตัวเอง เพียงยื่นพาสปอร์ตเข้าไปในเครื่อง ใส่หมายเลขไฟลท์ เข้าไปแสกนนิ้วมือ เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย แต่ถ้าหากทำไม่เป็น ก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำอยู่ครับ

6. หลังจาก Immigration เพื่อน ๆ ก็สามารถไปหาอาหาร หากาแฟทาน แล้วก็ไปรอที่ประตูทางออกตามที่กำหนดไว้บน Boarding Pass ได้เลย และอย่าไปใช้กว่าเวลา Boarding Time นะครับ

Boarding Time

การเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่องจะแบ่งเป็นโซน โดยเพื่อน ๆ สามารถดูว่าโซนที่นั่งอยู่โซนไหน ซึ่งเมื่อมีประกาศเรียก ก็ขึ้นเครื่องได้เลย เพียงยื่น Boarding Pass และบัตรประชาชน หรือ พาสปอร์ตให้กับพนักงานตรวจสอบอีกครั้ง

เมื่อถึงบนเครื่อง ให้เช็กเลขที่นั่ง และมองหาหมายเลขที่นั่งทางด้านบนเหนือศีรษะ เก็บสัมภาระ กระเป๋า Carry on บนช่องเก็บของเหนือศีรษะให้เรียบร้อย แล้วก็เข้าไปนั่งประจำที่และรัดเข็มขัดครับ

ระหว่างอยู่บนเครื่อง จะมีสัญญาณเตือนให้รัดเข็มขัด เพื่อน ๆ ก็ไม่ควรลุกออกจากที่นั่งนะครับ หากเมื่อสัญญาณดับลงก็สามารถลุกไปยืดขา เข้าห้องน้ำได้ แล้วก็รีบกลับมานั่งประจำที่ครับ 

นอกจากนี้ก็แค่ Enjoy the flight และถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพครับผม

และถ้าหากเพื่อน ๆ มีคำถามหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับการเดินทางด้วยสายการบิน ก็ติดต่อมาสอบถามกันได้ทางคอมเมนต์ด้านล่างนี้ ถ้าคำถามไหนที่พอจะตอบได้ ก็จะพยายามตอบให้นะครับ หวังว่าการขึ้นเครื่องบินครั้งแรก จะเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับทุก ๆ คนครับ

คุณ
คุณ
เจ้าของเพจเที่ยวตามใจคุณนะครับ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคน หวังว่าบทความท่องเที่ยวที่เขียนขึ้นมาจะเป็นประโยชน์นะครับ แล้วมาคุยกันนะครับ

บทความน่าสนใจ