ฮานอย ประเทศเวียดนาม เมืองทางเหนือของเวียดนามที่มีวัฒนธรรม และธรรมชาติอันงดงาม วันนี้เที่ยวตามใจคุณจะพาไปเที่ยว เที่ยว 3 วัน 3 คืนเต็ม ที่เมืองฮานอย ทริปนี้บอกเลยว่าเป็นทริปที่เที่ยวคุ้มที่สุด ไปดูที่เที่ยวฮานอยที่เพื่อน ๆ ไม่ควรพลาดกันเลย
วันที่ 1 : สุสานโฮจิมินห์ (แสดงความเคารพต่อศพท่านโฮจิมินห์), เจดีย์เฉินก๊วก (Trấn Quốc Pagoda), โบสถ์เซนต์โจเซฟ, พิพิธภัณฑ์คุก Hoa Lo, ทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม(ทะเลสาบคืนดาบ)
วันที่ 2 : ล่องเรือเที่ยวฮาลองเบย์
วันที่ 3 : ชิมกาแฟไข่ต้นตำหรับจากร้าน Giang Caphe และเดินชม เวียดนาม .. วิหารวรรณกรรม(Van Mieu / Temple of Literature, มหาวิทยาลัยแห่งแรกในเวียดนาม)
สถานที่เที่ยวฮานอย เวียดนาม
หลังจากทานอาหารเช้าที่โรงแรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว เรากับเพื่อนร่วมทริปนี้ ก็พร้อมออกเดินทางไปเที่ยวฮานอย โดยช่วงที่เรามาเป็นเดือนมกราคม เป็นช่วงอากาศเย็น ๆ สบาย ๆ 15 องศา คือเที่ยวได้แบบแฮปปี้มาก ไม่ร้อน เหงื่อไม่ออกให้รำคาญใจ โดยวันแรกนี้เราใช้เวลาในการเที่ยว 7 สถานที่ โดยใช้เวลาตั้งแต่ 9.30 – 21.30 รวม ๆ 12 ชั่วโมง ไปดูกันเลยว่าที่เที่ยวฮานอยรอบนี้ ต้องรีบวิ่งเก็บแลนด์มาร์คอะไรกันบ้าง
1. สุสานโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh’s Mausoleum)
เวลาเปิด : อังคาร – พฤหัสบดี 7.30 – 10.30 น. เสาร์ – อาทิตย์ 7.30 – 11.00
ที่ตั้ง : 8 Hung Vuong, Dien Bien, Ba Dinh, Hanoi
เป็นสถานที่ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวมากที่สุดในฮานอย เวียดนาม “ลุงโฮ” เสียชีวิตในปี 1969 และร่างของลุงโฮก็ได้ถูกเก็บรักษาไว้ในโรงแก้วในสุสานแห่งนี้
ถ้าหากคุณเข้ามาในบริเวณสถานที่แห่งนี้ คุณจะต้องเคารพกฎของสถานที่ด้วยคือจะต้องฝากกระเป๋า และฝากกล้องไว้ตามจุดที่เค้าได้กำหนดไว้
สาวเวียดนามก็ตลกใช่เล่น พอเห็นเราเป็นคนไทย พอเอาของไปฝาก ก็มีการมาถามว่า “How do you say you are handsome in Thai?” เราก็สอนไปว่า “คุณหล่อมาก” นางก็ขำคริคริ // เบะปากมองบน 5555
และที่สำคัญควรแต่งตัวให้เหมาะสมด้วยนะครับ เมื่อเดินเข้ามาใกล้กับตึกสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ที่ทำจากหินแกรนิต คุณจะเริ่มเห็นคนต่อแถวยาว มีทหารหน้าตี๋ หุ่นดี จัดระเบียบแถวให้เดินเป็นระเบียบ
เมื่อเข้าสู่ตัวอาคารคุณควรทำตัวสำรวม ไม่พูดกันและเดินต่อไปเรื่อย ๆ โดยคุณจะได้เดินเข้าไปเห็นร่างของลุงโฮที่ถูกเก็บรักษาไว้ในโรงแก้ว ร่างของท่านดูไม่เหมือนคนที่เสียชีวิต แต่ดูเหมือนท่านกำลังนอนหลับเท่านั้นเอง เส้นผมและหนวดยังดูมีชีวิตอยู่เลยครับ โดยวิธีการเก็บรักษานั้นเป็นฝีมือของแพทย์จากรัสเซียซึ่งมีความชำนาญในด้านนี้
โดยการเก็บรักษาร่างของลุงโฮของรัฐบาลนั้นขัดกับความประสงค์ของท่าน ที่สั่งให้เผาร่างของตัวเอง แล้วนำเถ้าถ่านกับอังคารไปบรรจุไว้ที่ภาคกลางใต้ ภาคกลาง และภาคเหนือของประเทศ
2. ทำเนียบประธานาธิบดีและบ้านโฮจิมินห์
อยู่ถัดมาจากสุสานโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh’s Mausoleum) มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชมคนละ 25,000 VND จะเป็นทำเนียบประธานาธิบดี ที่เราได้เห็นแต่ข้างนอกเท่านั้น เป็นอาคารสีเหลือง มีพื้นที่พอสมควร
เดินต่อมาเรื่อย ๆ จะเจอกับบ้านและอาคารจัดแสดงสิ่งของต่าง ๆ ที่ลุงโฮเคยใช้
บ้านพักลุงโฮเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูง ข้างล่างบ้านจะมีทหารคอยเฝ้าเวร และมีพิธีการเปลี่ยนเวรที่น่ารักมาก ๆ คือคนที่ออกเวรจะมีการจัดชุด ดูและเสื้อผ้าหน้าผมให้คนต่อไปดูดี (จิ้นเว่อร์ 555 ไปดูตามในคลิปเลย)
และนี่ก็คือรถที่ลุงโฮเคยใช้
3. เจดีย์เฉินก๊วก (Trấn Quốc Pagoda)
เจดีย์เฉินก๊วกเป็นเจดีย์ที่มีอายุมากที่สุดในฮานอย ซึ่งมีอายุกว่า 1500 ปี จุดเด่นของวัดนี้คือเจดีย์ทรงสูงสีแดง ที่ซ้อนกันขึ้นไป 11 ชั้น ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากข้างนอก นอกจากนี้ด้วยสถานที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ จึงทำให้เป็นวัดที่มีวิวที่แตกต่างจากวัดอื่น ๆ
ศาลเจ้าจะมีธูปให้บริการคนที่มากราบไหว้สักการะขอพรจากเทพเจ้าเพื่อขอให้ชีวิตมีแต่ความเป็นสิริมงคล
บริเวณข้างนอกของวัดคือชิลมาก ลองเดินเล่นรอบ ๆ ทะเลสาบดู อาจจะได้รูปเก๋ ๆ ชิล ๆ ไปหลายรูปเลยหละ
หลังจากถ่ายรูปเล่นแถวนี้เสร็จ ก็ได้เวลาทานอาหารเที่ยง เราก็เลือกไปทานเฝอ แต่ร้านที่เราหามามันปิด ก็เลยไปนั่งทานร้านข้าง ๆ แทน โชคดีมากที่ร้านข้าง ๆ อร่อย น้ำซุปหวาน เส้นนุ่ม อู้ววว อร่อย ดูดซูด ๆ แต่ข้อเสียอย่างเดียวคือร้านเล็กมาก นั่งไม่ค่อยถนัด
หากใครสนใจลองของอร่อย ก็สามารถตามไปที่นี่เลย : ร้านชื่อว่า PHO XAP APCHAO อยู่ข้าง ๆ กับร้าน Phở Gia truyền Bát Đàn
หรือถ้าหากอยากมีคนพาทัวร์กินแบบจุก ๆ ล่ะก็ จองทัวร์ชิมอาหารผ่านทาง Traveloka ได้เลย!
4. รางรถไฟฮานอย
หลังจากทานอาหารเสร็จ เราก็ไปเดินถ่ายรูปตามรางรถไฟ (เพื่อนก็บ่นว่าอยู่ไทยไม่เห็นจะถ่ายทางรถไฟกัน แต่เจือกมาถ่ายถึงฮานอย 555 เออก็จริงของมันแหละ) แต่มันไม่เหมือนกันนะเว้ยย รางรถไฟที่นี่มันเป็นที่เที่ยวในฮานอยที่ใคร ๆ ก็ต้องมา มันมีความเก๋ตรงที่สองข้างทาง จะได้เห็นบรรยากาศ วิถีชีวิตของคนที่นี่จริง ๆ เดินไปเรื่อย ๆ ก็เห็นคนมาขายขนม บางบ้านก็ทอดหมู น้ำมันกระเด็น แบบไม่แคร์โลก บางบ้านก็ซักผ้า นี่มันคือเสน่ห์ของที่นี่เลยหละ
ถึงแม้ว่ามันจะเหม็นกลิ่นฉี่บ้างก็เหอะ แต่ก็ต้องทนมะ ถ่ายรูปเก๋ ๆ เดินไม่แคร์โลกไปก่อน
สำคัญที่สุดคือที่นี่ก็ถ่ายรูปลงอินสตาแกรมได้สวยมากที่นึงเลย
หลังจากเดินถ่ายรูปรางรถไฟอยู่ราว ๆ 45 นาที ด้วยความที่แพลนของเราไม่ได้ฟิกซ์ไว้แบบแน่นอน เพื่อนร่วมทริปก็เลยออกไอเดีย ให้ไปเที่ยวคุก ตอนแรกเราก็กล้า ๆ กลัว ๆ ไม่เคยคิดอยากจะไปคุก แต่ก็ต้องเออออตามมันไป
5. พิพิธภัณฑ์เรือนจํา Hoa Lo “คุกนรก”
ตอนแรกที่ไม่อยากมา แต่กลับกลายเป็นสถานที่ที่อยากจะแนะนำให้ทุกคนมา เพราะมันเซอร์ไพรส์มาก กับเรื่องราวของคุกนรกแห่งนี้
ค่าเข้าที่นี่ : VND 30,000 ต่อคน
ในยุคที่รัฐบาลฝรั่งเศสปกครองเวียดนาม ฝรั่งเศสได้สร้างเรือนจำแห่งนี้ขึ้นมาเพื่อใช้คุมขังนักโทษทางการเมือง โดยสวนใหญ่เป็นชาวเวียดนามที่พยายามต่อสู้เพื่อเรียกร้องเอกราชจากฝรั่งเศส
หลังจากที่เวียดนามได้เอกราชจากฝรั่งเศส เรือนจำแห่งนี้ตกอยู่ภายใต้การควบคุมและดูแลของรัฐบาลเวียดนามเหนือ โดยมันถูกใช้เป็นสถานที่ต้อนรับเชลยศึกชาวอเมริกันในช่วงสงครามเวียดนาม จนชาวอเมริกันตั้งฉายาให้ว่าเป็น “Hanoi Hilton” ซึ่งเปรียบเสมือนที่พักตากอากาศที่ไม่มีใครอยากเข้าไป
ถึงแม้ว่าจะผ่านมาแล้วกว่า 130 ปีคุกแห่งนี้ซึ่งถูกเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์ยังคงบรรยากาศที่น่ากลัวที่ชวนขนลุกอยู่ ทำให้ใคร ๆ ที่เข้ามาเรียนรู้ประวัติศาสตร์และเรื่องราวของคุกแห่งนี้เกิดอารมณ์หดหู่ไปตาม ๆ กัน
กิโยตินสำหรับประหารชีวิต
คุกแต่ละห้องจะมีตรวนเท้าเพื่อไม่ให้นักโทษขยับไปไหน ห้องที่แย่สุด ๆ คือไม่มีแสง มีเพียงแสงรอดผ่านเข้ามาเล็ก ๆ เท่านั้น
ถ้าหากคุณอยากเรียนรู้และสัมผัสกับบรรยากาศภายในคุก Hoa Lo ก็ลองมาเยี่ยมชมที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ บอกได้เลยว่ากลับออกไปคุณจะรักตัวเองมากขึ้น และอาจจะได้แนวคิดใหม่ ๆ กลับไป
6. โบสถ์เซนต์โจเซฟ (St. Joseph’s Cathedral) ณ เมืองฮานอย
พอออกจากคุก อารมณ์หดหู่กันพอแล้ว ก็ขอเข้าเมืองไปเดินชมอะไรให้จรรโลงใจ ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนั่นก็คือโบสถ์โซนต์โจเซฟนั่นเอง
ที่ตั้ง : 40 Nhà Chung, Hàng Trống, Hoàn Kiếm, Hà Nội, Vietnam
โบสถ์เก่าแก่สไตล์โกธิค อีกหนึ่งแลนด์มาร์คของเมืองฮานอย ที่ใคร ๆ ที่มาก็ไม่ควรพลาด เพราะเป็นสถาปัตยกรรมที่ได้อิทธิพลมาจากฝรั่งเศสในยุคล่าอณานิคมที่ฝรั่งเศสเข้าปกครองฮานอย และมีความคล้ายคลึงกับ Notre Dame ในกรุงปารีส
ในบริเวณรอบ ๆ เต็มไปด้วยร้านชากาแฟ และคาเฟ่มากมาย ถ้าหากใครที่อยากได้วิวสวย ๆ มุมถ่ายรูป ดีๆ ก็ลองมองหาร้านคาเฟ่รอบ ๆ นี้ดู ก็จะได้นั่งชิลชมวิวดูคนพร้อมโบสถ์ไปด้วย
อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจในบริเวณนี้คือร้านขายของ gift shop และของทำมือมากมาย ที่น่ารักและมีความแปลกตาไม่เคยเห็นที่ไหน บนถนน Ấu Triệu ซึ่งเป็นตรอกเล็ก ๆ ใกล้กับโบสถ์นั่นเอง
7. ทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม หรือทะเลสาบคืนดาบ
มีตำนานเล่าต่อกันมาว่า ในศตวรรษที่ 15 จักรพรรดิจักรพรรดิเล เหล่ย (Le Loi) ได้รับดาบวิเศษจากสวรรค์และใช้ดาบนั้นต่อสู้กับกองทัพจีนจนได้รับเอกราช วันหนึ่งจักรพรรดิได้ล่องเรือในทะเลสาบพร้อมกับดาบ ทันใดนั้นก็มีเต่ายักษ์ขึ้นมารับดาบวิเศษแล้วดำลงน้ำไป จึงเป็นที่มาของชื่อทะเลสาบคืนดาบ
หากมาช่วงเสาร์–อาทิตย์และช่วงกลางคืนอย่างเรา ก็จะเห็นคนเวียดนามออกมาเมาส์มอยตั้งวงทำกิจกรรมมากมาย หนุ่มสาวเวียดนามก็ออกมาเดินเล่นกันชมไฟตอนกลางคืน
โดยจุดเด่นที่สุดของทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยมก็คือสะพานแดง ที่ตอนกลางคืนมีการฉายไฟให้โดดเด่น แต่น่าเสียดายที่เค้าปิดประตูไม่ให้เดินผ่านเข้าไปได้
และนี่ก็คือบรรยากาศของทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยมและ Dong Kinh Nghia Thuc Square ที่เป็นลานน้ำพุที่หลายคนแนะนำให้มาเดินเล่น และยังมีร้านกาแฟบนตึกสามสี่ชั้นที่สามารถมองเห็นวิวด้านบนได้อีกด้วย
หมดไปแล้วหนึ่งวันการเที่ยวฮานอยวันแรก เหมือน Amazing Race ไม๊ละ หรือจะเรียกชะโงกทัวร์ก็ได้ เราไปเที่ยว 7 สถานที่เที่ยวฮานอยเด็ด ๆ ภายในเวลา 12 ชั่วโมง (ทำเอาขาลากเลยทีเดียว) แต่ก็ถือว่าคุ้มสุด ๆ แฮปปี้
สำหรับการเที่ยววันที่สองคือการเดินทางไปล่องเรือที่ฮาลองเบย์ ไปชมความงามของธรรมชาติกันบ้าง ถ้าหากใครสนใจไปอ่านต่อกันได้ที่บทความ >>เที่ยวฮาลองเบย์<< ได้เลยยยยย และใครที่กำลังหา อาหารเวียดนามอร่อย ที่ฮานอย อ่านที่นี่เลย!
โรงแรม ที่พักฮานอย
คนที่กำลังวางแผนเที่ยวฮานอย เราขอแนะนำที่พักตลอดสามคืนเป็นที่นี่ ที่พักของเราชื่อว่า Sunline Poan ซึ่งตั้งอยู่ในเขต Old Quarter เดินเพียง 5 นาทีก็ถึงวงเวียนน้ำพุ Dong Kinh Nghia Thuc Square เป็นโรงแรมเล็ก ๆ แต่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน
ภายในห้องมีพื้นที่เหมาะสำหรับสองคน ห้องน้ำกว้างขวาง มี rain shower สบายมาก และที่สำคัญคือความสะอาด และเป็นระเบียบของห้อง
นอกจากนี้โรงแรมยังมีอาหารเช้าให้บริการ อาหารมีตัวเลือกหลากหลาย เปลี่ยนทุกวัน และรสชาติโอเค ขอย้ำโยเกิร์ตและกาแฟคือดีมาก ๆ