fbpx
Homeเที่ยวเอเชียญี่ปุ่นทำบุญ ขอพร ศาลเจ้าเมจิ เรื่องความรัก และช้อป กิน ถ่ายรูป ฮาราจูกุและชิบูย่า ในหนึ่งวัน

ทำบุญ ขอพร ศาลเจ้าเมจิ เรื่องความรัก และช้อป กิน ถ่ายรูป ฮาราจูกุและชิบูย่า ในหนึ่งวัน

Klook.com
- Advertisement -
- Advertisement -

เที่ยวตามใจคุณวันนี้ เป็นวันที่ 4 แล้วในโตเกียว เราจะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวต่อกันที่ศาลเจ้าเมจิ/Meji Shrine ฮาราจูกุ ไปกินเครปเย็นที่ไม่ควรพลาด แล้วไปต่อกันที่ชิบูย่าครับ

ตลอดทั้งทริป เราเลือกการเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน เราซื้อเป็นตั๋วแบบรายวัน ซึ่งคุ้มกว่าจ่ายแยกเป็นครั้ง ๆ อย่างแน่นอน เพราะเราไปหลายที่ ขอแนะนำเลยสำหรับคนที่แพลนเที่ยวเยอะ 

แล้วจะขาดไม่ได้เลย นั่นก็คือซิมการ์ด เพื่อใช้อินเตอร์เน็ตตลอดทั้งทริป ไม่งั้นมีหลงแน่ ๆ คลิกซื้ออินเตอร์เน็ตที่นี่

เราออกเดินทางไปเที่ยวย่านฮาราจูกุวันนี้กันสายหน่อย กว่าจะเตรียมตัวออกจากโฮสเทลได้ก็  10 โมงแล้ว เราเดินทางจากสถานี Kuramae ไปยังสถานี Meiji-jingumae “Harajuku station” ด้วยรถไฟสาย Oedo และไปต่อรถไฟสาย F (Fukutoshin) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาทีก็ถึงครับ เมือถึงสถานี Meiji-jingumae “Harajuku station” ให้เดินต่อไปอีกนิดนึงก็จะถึงครับ

ออกมาจากสถานี เดินนิดหน่อย ก็จะเจอกับเสาไม้โทริอิขนาดใหญ่ ที่เป็นสัญลักษณ์ของทางเข้าสู่ศาลเจ้า คนญี่ปุ่นจะโค้งคำนับหนึ่งครั้งก่อนที่จะเดินผ่านเสาโทริอิ

ศาลเจ้าเมจิ/Meji Shrine

ศาลเจ้าเมจิ ฮาราจูกุ

บรรยากาศทางเข้าศาลเจ้าร่มรื่นมาก แต่วันนี้ฝนตกปรอย ๆ ก็จะเห็นคนกางร่มกับเพียบ คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะใช้เป็นร่มใส ๆ อย่างที่เราจะเห็นกันได้ทั่วไป มีหลายขนาดมาก หลายคนแนะนำว่าถ้ามาญี่ปุ่น ก็ควรซื้อร่มกลับไปใช้ เพราะมันแข็งแรงและมีสไตล์

บรรยากาศศาลเจ้าเมจิ

เดินเข้ามาสัก 5 นาทีก็จะเจอกับถังบ่มไวน์ขนาดใหญ่ วางเรียงรายกันอยู่

ถังสาเก

ฝั่งตรงกันข้ามก็จะมี ถังเหล้าสาเกหลากสีสัน  มันกลายเป็นภาพจำที่ใคร ๆ ที่มาศาลเจ้าเมจิก็ต้องมาถ่ายรูปกับถังสาเกนี้เอาไว้เป็นที่ระลึก จากจุดนี้จะต้องเดินอีกประมาณ 5 นาทีกว่าจะถึงศาลเจ้าหลักครับ 

ศาลเจ้าเมจิเป็นอีกหนึ่งในศาลเจ้าที่โด่งดังมาก ๆ ของโตเกียว เนื่องจากจำนวนคนที่แห่กันมาสักการะ ขอพร กันในแต่ละปี และที่ตั้งที่อยู่ใจกลางเมือง จึงทำให้ศาลเจ้าเมจิกลายเป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยว หรือแม้แต่คนญีปุ่นเอง

ศาลเจ้าเมจิถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับจักรพรรดิเมจิและพระมเหสี ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ศาลเจ้าเมจิได้ถูกทำลายลง แต่ก็ได้มีการบูรณะและสร้างขึ้นมาใหม่จนถึงปัจจุบัน

ก่อนเข้าสู่ศาลเจ้าหลัก ทางซ้ายมือจะมีที่สำหรับล้างมือ ซึ่งเป็นธรรมเนียมที่จะต้องทำก่อนเข้าศาลเจ้าทุกที่ในญี่ปุ่น สิ่งที่ควรทำคือล้างมือซ้าย ล้างมือขวา และบ้วนปาก แต่พยายามอย่าให้น้ำกระเด็น และอย่าใช้ปากกับกระบวยโดยตรง

โทริอิไม้ ก่อนเข้าสู่ศาลเจ้าหลัก

ศาลเจ้าเมจิ โตเกียว

ทำบุญ ขอพร ศาลเจ้าเมจิ

บริเวณนี้เป็นบริเวณศาลเจ้าหลัก จะเป็นจุดที่คนมาทำบุญ และขอพร ศาลเจ้าเมจิไม่ได้เพียงมีชื่อเสียงทางด้านการทำบุญ ขอพร เพียงเท่านั้น แต่คนญี่ปุ่่นก็นิยมมาทำพิธีแต่งงานกันที่วัดแห่งนี้ด้วย ถ้าหากโชคดีเพื่อน ๆ ก็จะได้เห็นเจ้าบ่าว เจ้าสาว มาทำพิธีกรรมในบริเวณวัด

วิธีการขอพรมีดังนี้

  1. โยนเหรียญ 5 เยน
  2. ตามด้วยก้มโค้งคำนับอีก 2 ครั้ง
  3. ตบมือ 2 ครั้ง และขอพร
  4. ก้มโค้งอีก 1 ครั้ง เป็นอันเสร็จพิธี
ศาลเจ้าเมจิ โตเกียว

ข้างหน้าศาลเจ้าหลักจะมีต้นไม้ต้นใหญ่มาก แผ่กิ้งก้าน และบริเวณต้นจะล้อมด้วยแผ่นป้ายขอพร (Ema) สามารถซื้อได้ในราคาแผ่นละ 500 เยน เพื่อเขียนขอพรจากเทพเจ้า จะมีการทำพิธีทุกเช้า ส่วนมากคนจะขอพรด้านสุขภาพ ธุรกิจ การงาน ความรัก และการเรียน

แอบเห็นป้ายมีหลายภาษามาก และคนไทยก็มาเขียนขอพรกันที่นี่เยอะเหมือนกัน

ศาลเจ้าเมจิ โตเกียว

กล้องมาก็ต้องโพสต์หน่อยจ้า

หลังจากที่ทำบุญ ไหว้พระ ซื้อเครื่องรางความรักจากศาลเจ้าเมจิเรียบร้อยแล้ว เราก็วางแผนว่าจะไปเดินเล่นกันในย่านฮาราจูกุ เราเดินตรงลงมาจากทางศาลเจ้า ก็จะเจอกับห้าง Tokyu Plaza ซึ่งเป็นหนึ่งจุดที่ใคร ๆ ก็ต้องมาถ่ายรูป เพราะมันถือเป็นหนึ่งสถานที่ในย่านนี้ที่ถ่ายรูปลง Instagram แล้วสวยมาก

เพราะทางเข้าของห้าง Tokyu Plaza ประดับด้วยกระจกเงาที่ตัดเป็นเหลี่ยมมากมาย พอมองไปแล้วมันเหมือนตึกแห่งโลกอนาคต จะเห็นภาพสะท้อนจากหลาย ๆ มุม ดูเก๋มาก

Tokyu Plaza Harajuku
Tokyu Plaza Harajuku
Tokyu Plaza Harajuku

ตอนนี้ก็ได้เวลาอาหารเที่ยงแล้ว ท้องเริ่มร้อง เราก็รีเสิร์ชหาร้านอร่อยในย่านนี้ ก็ได้พบกับร้านเทมปุระร้านนี้

ร้านเทมปุระอร่อย ย่านฮาราจูกุ

เราไปกินข้าวหน้าเทมปุระกันที่ร้าน Tenya Tendon Soba Udon ร้านนี้เป็นร้านที่มีคนมารีวิวเยอะมาก เพราะรสชาติที่ถูกปาก และราคาสบายกระเป๋า 

พิกัด : 〒150-0001 東京都渋谷区神宮前4丁目4−31 原宿TKビル

เราสั่งเป็น New All Star Tendon ราคาอยู่ที่ 720 เยนเอง ส่วนตัวแล้วชอบรสชาติของอาหารมาก เพราะมันกรอบ เราสั่งเป็นกุ้งและปลาหมึก สดดี แล้วราคาก็ไม่แพงด้วย

ร้าน Tenya Tendon

เติมพลังกันเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาไปเดินเล่นกันที่ย่านฮาราจูกุกันเลย ถนนสายหลักของย่านนี้ก็คือถนนทาเคชิตะ/Takeshita Street ซึ่งเป็นแหล่งรวมวัยรุ่น ร้านขายเสื้อผ้า และร้านขนมต่าง ๆ มากมายเราไปชมบรรยากาศพร้อม ๆ กันเลยครับ

ช้อปและกินขนมที่ถนนทาเคชิตะ/Takeshita Street

หลังจากที่ฝนตกไปตอนเช้า ตอนบ่าย ๆ คนเริ่มเยอะ ดูถนนนั่นสิครับ แทบไม่มีทางเดินเลย 

ร้านส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องสำอาง ของฝาก ตุ๊กตาต่าง ๆ แล้วก็มีร้านประเภท drug store อยู่หลายร้านด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีร้านไดโซะ ขายทุกอย่าง 100 เยน และร้านที่เราชอบก็คือร้าน BIC Camera ที่ขายอุปกรณ์อิเล็คทอรนิกส์ และอุปกรณ์เสริมสำหรับกล้องและมือถือมากมาย

และที่พลาดไม่ได้เลยถ้าหากมาเดินเที่ยวย่านฮาราจูกุนั่นก็คือการกินเครปเย็น สมัยก่อนประเทศไทยก็ฮิตมากกับเครปเย็นแต่ตอนนี้หากินได้ยากมาก เรามาถึงต้นกำเนิดเครปเย็นของญี่ปุ่นแล้ว ก็ต้องไม่พลาดแน่ ๆ งานนี้

เราเดิน ๆ ดูในถนนทาเคชิ มันมีร้านเครปหลัก ๆ อยู่ประมาณ 2 ร้านคือร้าน Santa Monica และ Marion Crepe เราเลือกลองเป็นร้าน Santa Monica ครับ แล้วก็สั่งเป็นสตอเบอร์รี่ชีสเค้ก พร้อมไอศครีมด้วย

เดินเหนื่อย ๆ ได้กินเครป ก็สดชื่นดีเหมือนกัน

ช่วงบ่าย ๆ จะเห็นนักเรียนมาเดินเที่ยวกันเต็มเลย

เดินเที่ยวย่านชิบูย่า/Shibuya

ช้อปกันจุใจแล้ว เราก็เดินทางไปเที่ยวชิบูย่ากันต่อ เราเลือกเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน งานนี้ต้องใช้บัตรที่ซื้อมาให้คุ้ม เราเดินทางจากสถานี Meiji-jingumae ’Harajuku’ Sta. ไปยัง Shibuya ด้วยรถไฟสาย F โผล่ออกมาจากสถานีรถไฟที่ทางออกของรูปปั้น Hachiko เจ้หมาซื่อสัตย์ที่รอคอยเจ้านายกว่าหลายปี

รูปปั้นฮาจิโกะเป็นจุดนัดพบของหลาย ๆ คนที่มาเที่ยวย่านชิบูย่าครับ แต่ตอนที่เรามาคนเยอะมาก ต่อคิวถ่ายรูป อาจจะทำให้หาเพื่อนที่นัดไว้ยากสักหน่อย 

จุดที่นัดแล้วหาเจอง่ายกว่านั้นก็คือกำแพงฮาจิโกะ หรือรถไฟคิตตี้ที่เป็น Tourist Information Center นั่นเอง

 

รูปปั้นฮาจิโกะ/Hachiko

ฮาจิโกะเป็นสุนัขพันธุ์อากิตะ เรื่องราวของฮาจิโกะถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ โด่งดังไปทั่วโลก ฮาจิโกะจะมานั่งรอเจ้าของกลับจากที่ทำงานที่สถานีรถไฟชิบูย่าในกรุงโตเกียวทุกวัน โดยวันหนึ่งที่เจ้านายของมันได้จากไปด้วยอุบัติเหตุเส้นเลือดในสมองแตก ด้วยความซื่อสัตย์ที่มีต่อเจ้านาย ฮาจิโกะจะมารอเจ้านายของมันทุกวัน โดยไม่รู้เลยว่าเจ้านายของมันจะไม่มีวันกลับมา

และข้างหลังฮาจิโกะก็คือห้าแยกชิบูย่าที่คนนับพันกำลังรอบข้ามถนนกันอยู่ ครั้งหนึ่ง ๆ จะมีคนข้ามถนนกว่า 2.5 พันคนโดยประมาณ เป็นภาพที่แปลกตามาก ๆ ได้เห็นคนพยายามข้ามถนนในเวลาเดียวกันไปใน 5 ทิศทาง บ้างก็ลงมาถ่ายรูปก็มี

5 แยกชิบูย่า

ห้าแยกชิบูย่า
5 แยกชิบูย่า

ภาพนี้เป็นภาพถ่ายตอนกลางคืนจาก Tokyu Department Store ที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟ เนื่องจากเราไม่ได้ไปทานกาแฟสตาร์บั๊คเพื่อดูวิว แต่มุมตรงนี้ก็ถือว่าไม่แย่เลยครับ แต่น่าเสียดายที่มันจะไม่ค่อยชัดสักเท่าไร เพราะมันค่อนข้างไกล และกระจกจะมีลายน้ำ

ในย่านชิบูย่ามีร้านเสื้อผ้าแฟชั่นมากมาย ร้านเครื่องสำอางก็เยอะ แต่เราสะดุดกับร้าน Disney Store ข้างในจะมี 3 ชั้น ให้เดินรอบ ได้เป็นวงกลม มีของฝาก ของใช้จากตัวละครในดิสนีย์มากมาย และยังมีพื้นที่ตกแต่งน่ารัก ๆ หลายมุมด้วย

ดิสนีย์ ชิบูย่า

ของน่าซื้อไปหมดเลยย

ร้านซูชิสายพาน Genki Shushi ย่านชิบูย่า

ถ้ามาญี่ปุ่นก็ต้องมาลองซูชิสายพานอย่างน้อยหนึ่งครั้ง เราเลือกกินที่ร้าน GENKI Shushi

พิกัด : 〒150-0042 東京都渋谷区宇田川町24−8

เรารู้สึกตื่นเต้นกับการมาร้านซูชิสายพานมาก บอกเลย เพราะเราจะต้องสั่งอาหารผ่านแท็บเล็ตด้วยตัวเอง แล้วคือมันงง ๆ มาก ว่าอะไรอยู่ตรงไหน

พวกแก้วน้ำ จาน จะอยู่ด้านบน เราสามารถเอาแก้วน้ำลงมากดน้ำร้อนที่อยู่ข้างหน้าเราได้เลย แล้วเขาจะมีผงชาเขียวให้ใส่ด้วย เราใส่เยอะ รสชาติเข้มข้น ชอบ ๆ 

ส่วนสายพาน ที่นี่จะเป็นสายพานแบบ 3 ชั้น ระบบจะก็เหมือนร้านซูชิทั่วไป พอซูชิมาหยุดที่ข้างหน้าเรา ก็แค่หยิบ แล้วเดี๋ยวมันจะเด้งคืนไปเอง

แต่จะต้องคอยสังเกตว่าซูชิมันมาที่ชั้นไหน เพราะบางครั้งมันมาชั้นสาม มันอยู่สูงเกินสายตาเรา เราก็ไม่ได้มองเหมือนกัน

กินเสร็จแฮปปี้ โดนไปเกือบ 2,000 เยน คืนนี้ก็แฮปปี้แล้ว

สำหรับวันนี้ก็ขอจบทริปเที่ยวย่านฮาราจูกุและชิบูย่าเพียงเท่านี้นะครับ หวังว่าทุกคนจะชอบและฝากติดตามการเที่ยวโตเกียววันอื่น ๆ ของเราต่อด้วยตามลิงค์ด้านล่างนี้เลย

Booking.com
คุณ
คุณ
เจ้าของเพจเที่ยวตามใจคุณนะครับ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคน หวังว่าบทความท่องเที่ยวที่เขียนขึ้นมาจะเป็นประโยชน์นะครับ แล้วมาคุยกันนะครับ

บทความน่าสนใจ