ดิสนีย์แลนด์/Disney Land และ ดิสนีย์ซี/DisneySea ดินแดนในฝันของเด็ก ๆ หลาย ๆ คน ที่เกิดมาพร้อมกับการ์ตูนจากดิสนีย์ วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ชาวเที่ยวตามใจคุณไปเปิดโลกแห่งจินตนาการ เที่ยวโตเกียวดิสนีย์ซี/ Tokyo DisneySea สวนสนุกของดิสนีย์แห่งเดียวที่แตกต่างจากดิสนีย์อื่น ๆ ทั่วโลก ดังนั้นไม่รอช้าเราไปเที่ยวพร้อมกันเลยยย
ซื้อตั๋ว โตเกียวดิสนีย์ซี/Tokyo DisneySea ที่ไหน อย่างไร
เหตุผลหลัก ๆ ที่เราแนะนำให้ซื้อตั๋วจาก KLOOK ก็คือ เราจะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาต่อแถว ซื้อตั๋ว เพราะเวลามันมีค่ามาก จะได้เอาไปเล่นเครื่องเล่น
สำหรับใครที่ซื้อตั๋วผ่าน KLOOK ให้ลองเข้าซื้อจากทางสมาร์ทโฟน เพราะจะมีโอกาสซื้อได้ง่ายกว่าซื้อผ่านทางคอมพิวเตอร์
การเดินทางไป โตเกียวดิสนีย์ซี/ Tokyo DisneySea
ส่วนเราและเพื่อน ๆ ก็ขอเลือกเดินก็แล้วกัน เป็นการออกกำลังกายยามเช้า และที่สำคัญประหยัดเงินได้ตั้ง 260 เยน
เราใช้เวลาเดินจากสถานีรถไฟไปยัง DisneySea ประมาณ 15 นาที ก็เริ่มเห็นคนต่อคิวเพื่อเข้าสวนสนุกแล้ว ตอนนี้เวลา 8.00 น. แต่ประตูเพื่อเข้าดิสนีย์ซีก็ยังไม่เปิด เราก็เอะใจ ทำไมคนเริ่มนั่ง ทั้ง ๆ ที่มันควรจะเป็นเวลาเปิดแล้ว สุดท้ายก็ค้นพบว่าวันนี้มันเปิด 9.00 น. เราก็เลยต้องนั่งรอไปเรื่อย ๆ แต่ข้อดีของการมาเช้าก็คือเราได้อยู่แถวหน้า ๆ ถ้ามาช้ากว่านี้ แถวก็ยาวไปไกลเลย
ระหว่างรอให้เตรียมแผนที่ หรือดาวน์โหลดจาก ลิงค์นี้เอาไว้ และศึกษาเส้นทางเครื่องเล่นให้ดี เพื่อการเที่ยวที่ง่ายขึ้นครับ
ถึงเวลาไปลุย เที่ยวสวนสนุกดิสนีย์ซีกันเลย!
9.00 น. ได้เวลาเข้าสวนสนุก ทุกคนต่างตื่นเต้น เตรียมบัตรเพื่อแสกนเข้าสวนสนุก ส่วนเราใช้กระดาษที่เราไปรับที่สนามบิน เพราะเราได้รับผ่าน KLOOK มาก่อนแล้ว ไม่ต้องไปต่อแถวซื้อบัตรให้เสียอารมณ์ เสียเวลา พอผ่านเข้ามา สิ่งแรกที่จะเห็นก็คือลูกโลกกลม ๆ ที่หมุนพร้อมมีน้ำสาดกระจายให้ตื่นตาตื่นใจ ส่วนทางซ้ายมือก็จะมีการแสดงต้อนรับจากมิคกี้เมาส์ และมินนี่เมาส์
เราหยุดถ่ายรูป ดูโชว์สักประมาณ 5 นาที แต่ก็คิดได้ว่าจะต้องรีบวิ่งไปกดตั๋ว Fast Pass จาก Toy Story Mania เราก็รีบวิ่งนำเพื่อน เร็วมากจนทิ้งเพื่อน หายไปเลย
โซน American water front
คนต่อคิวเพื่อกด Fast Pass จากเครื่องเล่นนี้เยอะมาก ถือว่าเป็นเครื่องเล่นที่ได้รับความนิยมสูงสุด เราไปถึงหน้าเครื่องกด Fast pass ประมาณ 9.30 น. แต่กว่าจะได้เล่นก็บ่ายสองแล้ว ดังนั้นถ้าใครอยากเล่นเครื่องเล่นนี้ วิ่งให้เร็วที่สุดเลย
และนี่คือส่วนของ American Water Front ซึ่งมีเครื่องเล่นเด็ด ๆ อย่างทอยสตอรี่ มาเนีย
หลังจากได้ Fast Pass ก็สบายใจแล้ว เราสามารถกลับมาเล่นได้ตอนบ่ายสองถึงบ่ายสาม
บรรยากาศใน American water front ก็จะชิล ๆ หน่อย เพราะอยู่ติดกับทะเล และก็ยังมี เรือ Columbia ซึ่งเป็นร้านอาหารอยู่ข้างใน
ไปเล่นเครื่องเล่นอื่นฆ่าเวลากันก่อน เดินมาเรื่อย ๆ ก็จะเข้าสู่โซนที่ชื่อว่า Port Discovery เราเริ่มเล่น อควาโทเปีย เป็นเครื่องเล่นที่ให้นั่งฝ่าน้ำวน โดยระบบจะพาคุณลอยไปตามน้ำ โดยคุณจะไม่รู้เลยว่าคุณจะถูกหมุนไปทิศทางไหน มันเป็นเครื่องเล่นที่สนุกเกินคาด เพราะคุณจะไม่รู้เลยว่ามันจะหมุนเมื่อไร หันหลังกลับ หรือจะไปชนโขดหินหรือไม่
ใกล้ ๆ กันก็จะมี Marine Life Institute ข้างในจะนีโม&เฟรนด์ซีไรเดอร์ เป็นการนั่งพาหนะใหญ่ ๆ พร้อมกันทั้งห้อง ว่ายน้ำไปพร้อมกับนีโม่และเฟรนด์ และมีเอฟเฟ็กให้รู้สึกตื่นเต้นตลอดการเล่น เครื่องเล่นนี้เด็ก ๆ น่าจะชอบ
โซน Mermaid Lagoon
หลังจากที่ไปเล่นอะไรในท้องทะเลกันมาแล้ว เราก็ไปต่อกันที่โซนเงือกน้อย หรือ Mermaid Lagoon นั่นเอง โซนนี้เป็นโซนที่เราชอบมาก และเชื่อว่ามันเป็นโซนโปรดของใครหลาย ๆ คนเหมือนกัน
พอเริ่มเดินเข้ามาในโซนเมอร์เมดลากูน ก็จะเริ่มได้ยินเสียงของเงือกน้อยแอเรียล ร้องเพลง มันเหมือนเราหลุดไปอยู่ในโลกของนาง เหมือนนางว่ายน้ำอยู่รอบ ๆ พอไปถึงข้างหน้าปราสาท ก็จะต้องประทับใจกับสีสัน และความอลังการของ Mermaid Lagoon แห่งนี้
แอเรียลร้องเพลงอยู่บนโขดหิน
ราชาไททัน ราชาแห่งท้องทะเล
ยังไม่เข้าข้างในก็ตื่นเต้นแล้ว
บรรยากาศข้างใน Triton Kingdom ก็จะมืด ๆ หน่อย และมีแสงสว่างจากสัตว์และพืชทะเลทั้งหลาย
โชว์ King Triton’s Concert เป็นการแสดงที่ไม่ควรพลาด เพราะมันเป็นการแสดงยอดนิยม และถ้าหากใครเป็นแฟนเพลง Part of Your World ยิ่งห้ามพลาด เพราะคุณจะได้เห็นแอเรียลร้องเพลง และความน่าตื่นเต้นคือแอเรียลจะว่ายน้ำไปมากลางอากาศ และเทคโนโลยีที่ทำให้มันดูสมจริง คุณจะไม่มีเวลาหลับตาอย่างแน่นอน
คือเราโชคดีมาก ได้นั่งตรงกลาง แอเรียลว่ายมาใกล้มากกก ใกล้แบบเอื้อมมือจะถึงกันอยู่แล้ว
ดูคอนเสิร์ตจบ บอกเลยว่าประทับใจมาก แต่น่าเสียดาย เค้าห้ามถ่ายภาพ ก็เลยอดได้ภายสวย ๆ มาฝากเพื่อน ๆ
หลังจากนี้เราก็เริ่มหิว และใน Triton Kingdom แห่งนี้ก็มีร้านอาหารให้บริการเช่นกัน นั่นก็คือร้าน Sebastian’s Calypso Kitchen เป็นร้านอาหารที่ขายพิซซ่าและแซนด์วิช ราคาจะอยู่ในราคามาตราฐาของญี่ปุ่นก็คือ พันกว่าเยน แต่รสชาติอาหารไม่ไก่กานะจ๊ะ อร่อยมาก แฮปปี้มาก เราสั่งพิซซ่ามากินพร้อมน้ำโค้ก มันแบบชีสซี่มากแก
ไฮไลท์ของร้านอาหาร Sebastian’s Calypso Kitchen คือมันอยู่ติดกับปลาวาฬซึ่งเป็นร้านขายของที่ระลึก
ดิสนีย์ไม่เคยทำให้ผิดหวัง เพราะดิสนีย์มักจะใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ เสมอ อย่างเช่นเจ้าปลาวาฬตัวนี้ถึงแม้ว่าหน้านางจะง่วง แต่นางก็มีช่วงเวลาลืมตาตื่นขึ้นมาเหมือนกันนะ
ของฝากแอเรียลน่ารักมากกก
ป้ายทางเข้าห้องน้ำ เป็นแอเรียลกับเจ้าชาย น่ารักอะ ดูใส่ใจรายละเอียด ให้เข้ากับธีม
เราใช้เวลากันพอสมควร ถ่ายรูปเล่นกันอยู่ที่ Mermaid Lagoon และแพลนต่อไปของเราก็คือจะไปเอา Fast Pass อีกใบสำหรับ 20,000 League Under The Sea ซึ่งอยู่ในโซน Mysterious Island
ซึ่งระหว่างทางไป Mysterious Island เราก็เดินถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ ผ่านทั้งโซน Arabian Coast ซึ่งเป็นแนวอาหรับ ๆ อลังการมาก
ก่อนถึง Arabian Coast ก็จะได้มุมถ่ายรูปสวย ๆ ติดทั้งภูเขาไฟและ Mermaid Lagoon แบบนี้
โซน Arabian Coast
โซน Arabian Coast อลังการมาก ดูยิ่งใหญ่ เห็นโดมสีฟ้าเด่นมาแต่ไกล
และก่อนที่เราจะไป ก็ขอแวะดู The Magic Lamp กันซะก่อน มันเป็นเรื่องราวของจินนี่ ซึ่งด้วยอากาศเริ่มร้อน ดูไป ก็จะหลับ งัวเงียมาก แต่ตอนจบมันมีจุดพีค ทำให้ตื่นแน่นอน 55
โซน Mysterious Island
เริ่มเข้าสู่โซน Mysterious Island มันคือโซนที่เป็นภาพจำ เป็นภาพที่ต่างจากดิสนีย์ในที่อื่น ๆ ทั่วโลกเพราะไอ้เครื่องเล่นที่มีทางเดินวน ๆ สีเขียวนี่แหละ เครื่องเล่นนี้มีชื่อว่า 20,000 Leagues Under the Sea
เรารีบไปกด Fast Pass แล้วเดี๋ยวจะกลับมาเล่นในอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้า
เครื่องเล่นนี้น่าสนใจมากคือ มันจะให้เราเข้าไปนั่งในเรือดำน้ำ และทำให้รู้สึกว่าเราอยู่ใต้ท้องทะเล และได้เจอกับสัตว์น้ำ สัตว์ประหลาดมากมาย มันเหมือนจริงมาก เหมือนอยู่ใต้น้ำจริง ๆ
โซน Mediteranean Harbor
เราเดินเล่นกันต่อในส่วนเล็ก ๆ ของโซน Mediteranean Harbor เป็นมุมที่มีบ้านสไตล์ยุโรปให้ถ่ายรูปได้น่ารัก มาก ๆ
และแล้วก็ถึงเวลา เราเดินไปที่ Toy Story Mania ถึงแม้ว่าจะใช้ Fast Pass แต่ก็ต้องต่อคิวประมาณ 20 นาที กว่าจะได้เล่น
บรรยากาศภายใน
เกมก็คือคุณกับเพื่อน จะได้นั่งเครื่องเล่นเข้าไป แต่ละคนจะมีปืนไว้สำหรับยิ่งเป้าเพื่อเก็บคะแนน แต่ปีนมันเป็นแบบดึงเชือก คือมือเร็ว สาวเชือกได้เร็ว ก็มีโอกาสได้คะแนนเยอะไป
พอจบเก็บเค้าจะบอกคะแนนของคุณกับเพื่อน และคะแนนของคนที่เคยทำได้สูงสุดด้วย สนุกมากจริง ๆ บอกเลยเครื่องนี้ห้ามพลาดเด็ดขาด
เล่นเกมซะเหนื่อย ขอพักหากาแฟ และขนมกินกันก่อนดีกว่า
โมจิอันนี้อร่อยมากกก แป้งนุ่ม หนึบ มีสามรสสามสไตล์
ไอศครีมหอยนี่ก็เริ่ด ไอศครีมวานิลาหวาน ๆ กำลังดี แป้งกรอบ ๆ สดชื่นมาก
กินขนมตอนบ่ายเสร็จ ก็ใกล้บ่ายสามครึ่ง คนเริ่มมานั่งรอที่หน้าอ่าว เพราะกำลังจะมีการแสดง
นักแสดงมาแล้วจ้า
Mickey Mouse ก็มาจ้า
จับล็อตเตอร์รี่ที่ดิสนีย์ซี เพื่อดูโชว์
การแสดงช่วงนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับอีสเตอร์ ซึ่งจะใช้เวลาแสดงประมาณ 30 นาที ถือเป็นกิจกรรมอย่างนึงที่ไม่ควรพลาด
และสำหรับใครที่เป็นสายดูโชว์ ก็ห้ามพลาดกับการมาจับล็อตเตอร์รี่ Biglietteria เนื่องจากโชว์บางรายการอย่าง Big Band Beat ซึ่งมีมิคกี้เมาส์ร่วมแสดงด้วย ต้องจับล็อตเตอรี่ให้ได้เท่านั้น
ส่วนพวกเราโชคไม่ดี แต้มบุญหมด ก็เลยอดดูโชว์นี้เลย
ในเมื่อหมดหวังกับการดูโชว์ เราก็ไปล่องเรือย้อมใจกันดีกว่า
คนต่อแถวนั่งเรือค่อนข้างเยอะ เพราะเป็นกิจกรรมชิล ๆ ที่ทำได้ทั้งครอบครัว และเด็ก ๆ ก็ดูท่าทางชอบ และที่สำคัญมันเป็นหนึ่งกิจกรรมยอดนิยมของหนุ่มสาวที่มาเป็นคู่ด้วยแหละ อิจ ๆ
พี่ ๆ คนพายเรือ เค้าก็คอยพูด ปล่อยมุกตลก สอนให้ทักทายกัน แบบ “Ciao” เวลาเรือผ่านกับอีกลำ มันก็เอ็นเตอร์เท็นดีแก
นี่คือบรรยากาศของ Tower of Terror ตอนพระอาทิตย์ตกดิน ตอนนี้คนต่อคิวยาวนานกว่า 2 ชั่วโมงกว่าจะได้เล่น เราถอดใจแล้ว ณ จุดนี้ เพราะร่างเริ่มไม่ไหว เดินมาทั้งวัน
ร่างไม่ไหวแล้ว ก็ต้องมาหาข้าวกิน มื้อนี้ขอเปนอาหารสไตล์เอเชียน ก็มาหยุดที่ร้าน Vulcania ซึ่งขายอาหารจีน
เราสั่งข้าวผัดกับปอเปี๊ยะ โอเคเลยนะ แต่อยากได้น้ำปลาพริกสักหน่อย จะแซบน่าดู
เพื่อนเรานางสั่งเป็นก๋วยเตี๋ยว นางก็ว่าอร่อยดี
หลังจากนี้เราก็ไม่ได้เล่นเครื่องเล่นอะไรต่อแล้ว เพราะดึกมากแล้ว และคืนนี้น่าเสียดายที่ไม่มีโชว์แสงสี ตอนสองทุ่ม มันถูกยกเลิก เราก็เลยเดินเล่นในดิสนีย์ซี เก็บภาพบรรยากาศ และที่สำคัญ เราตามหาไอศครีมซอฟท์เสิร์ฟ
Mermaid Lagoon ตอนกลางคืน
Arabian Coast ตอนกลางคืน สวยมาก ๆๆ ดูมีมนต์ขลัง
เด็กผู้หญิงสองคนนางจ้องอะไรกันอยู่ ถ้าใครเข้ามาใน Arabian Coast อย่าพลาดตรงนี้ มันคือลูกเล่นเล็ก ๆ ที่น่าสนใจอันนึง ถ้าเรามองเข้าไปในปล่องไฟ เราจะเห็นคนกำลังตีเหล็ก
เดินตามหาจนเหนื่อย ร้านขายซอฟท์เสิร์ฟชื่อว่า Sultan’s Oasis ไอศครีมคือดีมากกก นุ่ม หวาน มัน และโคนคือบางกรอบ ไม่เคยเจอโคนแบบนี้ๆๆ คุ้มค่ากับการเดินหามาก ๆ
บรรยากาศในโซน Gateway ตอนกลางคืน และรอบ ๆ จะมีร้านขายของฝากเต็มไปหมด ถ้าใครกำลังมองหาของฝากเก๋ ๆ ก็อย่าพลาดบริเวณนี้เลย
และสุดท้ายก็ถึงเวลากลับบ้าน มันเป็นวันที่เรามีความสุขที่สุด เป็นวันที่แบบเหมือนได้หลุดเข้าไปอยู่ในโลกแห่งจินตนาการ ที่อะไร ก็เป็นจริงได้ จากที่เคยไปดิสนีย์มาทั้งฮ่องกง และอเมริกา เราว่าโตเกียวดิสนีย์ซี /Tokyo DisneySea คือที่หนึ่งในใจแล้วตอนนี้
หวังว่า disneysea รีวิว นี้จะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อน ๆ ที่กำลังวางแผนไปเที่ยวกันนะครับ
