สวัสดีเพื่อนๆชาวเที่ยวตามใจคุณทุกคนนะครับ
วันนี้เราจะมาพูดถึงทริปออกทะเลที่ประทับใจมากที่สุดทริปหนึ่ง นั่นก็คือทริปอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันนั่นเอง
ตอนแรกเรากับเพื่อนๆก็คุยกันไว้ว่า หมู่เกาะสิมิลัน มันค่อนข้างไกล เดินทางสองชั่วโมงจะไปกันจริงๆหรอ แต่สุดท้ายด้วยความสวยของหาดทรายและหินเรือใบ ก็ทำให้เราตัดสินใจมาที่นี่
การเดินทางไปสิมิลันกับ Love Andaman/ เลิฟอันดามัน
เราไปเที่ยวกันในช่วงเดือนธันวาคม เราพักกันในเขตพันวา ซึ่งเราได้ซื้อแพคเกจกับทาง somkhuan car rent and tour ซึ่งเคยใช้บริการเมื่อสามปีที่แล้ว รู้สึกว่าประทับใจ ครั้งนี้ก็เลยซื้อแพคเกจทัวร์สิมิลันจาก Love Andaman จากที่นี่เช่นกัน โดยสนนราคารวมอยู่ที่ สองพันบาทต้นๆ และจะมีรถทัวร์รับส่งระหว่างโรงแรมและท่าเรือทับละมุ ตามตารางรถจะมารับเวลา 6.00 น. ซึ่งถือว่าเช้ามากๆสำหรับพวกเรา เราจึงเข้านอนเร็วเป็นพิเศษเพื่อเก็บแรงไว้ลุยทริปวันรุ่งขึ้น
รถจะรับผู้โดยสารในเขตพันวาจนครบ และเริ่มออกเดินทางไปยังท่าเรือทับละมุ ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ช่วงนี้ต้องเก็บแรงเอาไว้เยอะๆ เพื่อไปลุยต่อทั้งวัน เมื่อถึงท่าเรือ ทางบริษัท Love Andaman ได้จัดเตรียมอาหารว่างไว้ให้สำหรับลูกค้าแล้ว
โดยอาหารจะเป็นข้าวต้ม, แซนวิช, ข้าวเหนียวสังขยา, เครื่องดื่ม โดยรสชาติถือว่าถูกปากพวกเราทุกคน ถึงแม้ว่าจะไม่มีรูปภาพอาหารมาฝาก แต่ขอการันตีว่า พวกเราทุกคนซัดอาหารไปไม่ยิ้งเพราะมันอร่อยมาก
ก่อนออกเดินทางสำหรับใครที่กลัวเมาเรือ ทางบริษัทก็มียาแก้เมาเรือให้บริการ เรากินกันแค่คนละครึ่งเม็ด เพราะไม่อยากให้รู้สึกเนือย เดี่ยวจะไม่สนุกกับการเที่ยวครั้งนี้
เมื่อใกล้ถึงเวลา ไกด์ของแต่ละสีจะเรียกรวมตัวเพื่ออธิบายกำหนดการและชี้แจงเรื่องความปลอดภัยตลอดการเดินทาง
สิมิลันเป็นภาษายาวี ซึ่งแปลว่า 9 โดยสิมิลันมีทั้งหมด 9 เกาะ แต่เกาะ 1-3 ถูกสงวนไว้จากทางอุทยานเพื่อเป็นการอนุรักษ์ให้สัตว์น้ำได้เพาะพันธ์ได้อย่างสมบูรณ์
โดยวันนี้ เราได้พี่สน็อบ ไกด์ทัวร์สาวจากมีนบุรี เป็นผู้ดูแลพวกเราตลอดทั้งทริป
หลังจากที่ได้ฟังบรรยายกว่า 10 นาที พวกเราก็พร้อมแล้วที่จะออกไปลุยเกาะสิมิลันกันแล้ว
ก่อนขึ้นเรือทุกคนจะต้องถอดรองเท้าใส่ไว้ในถุง เนื่องจากถ้าทุกคนใส่รองเท้าขึ้นไปบนเกาะและทำหายในทะเล รองเท้าจะกลายเป็นมลพิษต่อธรรมชาติ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้กลับไปสัมผัสธรรมชาติอย่างแท้จริง
จากที่เราสังเกต จะมีนักท่องเที่ยวบางคนใส่รองเท้าแบบกันน้ำ ซึ่งเป็นยางขึ้นเกาะ ซึ่งตรงนี้เราไม่รู้เป็นการอนุโลมให้ใส่ได้ หรือพี่แกไม่แคร์ไม่สน ทางบริษัทหรือทางอุทยานควรมีนโยบายที่เคร่งครัดกว่านี้ เพราะในอนาคต อาจจะมีปัญหาตามมาได้
หมูเกาะสิมิลัน ความสวยของทะเลไทย
เราได้นั่งตรงหัวเรือ ซึ่งเป็นจุดที่เค้าบอกว่าจะเมาเรือน้อยที่สุด แต่แดดอาจจะแรง ทำให้แสบผิว
เราใช้เวลาในการเดินทางโดย Speed Boat ประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาทีก็ถึงเกาะ 8 ซึ่งมีชื่อว่า สิมิลัน
เมื่อเรือเทียบชายหาดแล้ว ทุกคนต่างตาลุกวาว บรรยากาศมันเหมือนเกาะสวรรค์จริงๆ น้ำทะเลสีฟ้าใสตัดกับชายหาดสีขาว ทรายนุ่มละเอียด ล้อมรอบด้วยหินสีดำ ที่บนยอดมีหินชื่อว่า หินเรือใบตั้งสง่าอยู่ ทำให้ทุกคนบนเรืออยากจะกระโดดออกจากเรือเพื่อไปชมความงามใกล้ๆ
โดยรอบบ่าย ทัวร์จะพาเราไปดำน้ำถึงสองจุด จุดละ 30 นาที โดยทัวร์จะมีหน้ากากและเสื้อชูชีพให้บริการ
เกาะสิมิลันมีชื่อเสียงเรื่องเป็นสถานที่ที่เต่าจะมาวางไข่ แต่น่าเสียดายที่พวกเราไม่มีโอกาสได้เจอ แต่ปะการังและปลาที่เราไปดูก็ประทับใจพวกเรามากแล้ว
สำหรับใครที่ว่ายน้ำไม่เป็น ไกด์ทัวร์จะดูแลเป็นอย่างดี เพื่อนเราชาวเกาหลีสองคนที่มาด้วย ว่ายน้ำไม่ค่อยได้ พี่เค้าช่วยลากพวกนางไปดูปะการังรอบๆ ซึ่งพวกนางประทับใจมาก ถึงกับเอ่ยปากว่าไม่เคยสนุกขนาดนี้มาก่อน
นักท่องเที่ยวต่างหากิจกรรมทำ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการนอนอาบแดดตามหาด หรือหาไอศครีมกินเพื่อคลายร้อน ส่วนเราก็เลือกหามุมถ่ายรูปข้างโขดหิน เพื่อเป็นไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งได้ความเก๋ไปอีกแบบ
วันนี้คลื่นค่อนข้างแรง จากที่นอนโพสต์ท่าสวยๆ เซ็กซี่ อาจจะถูกคลื่นซัดลงไปในน้ำ ได้รูปแนวนี้กลับบ้านแทน ก็ฮาไปอีกแบบ
ระหว่างทางพี่สน็อบไกด์สาวของเราก็ได้เข้ามาพูดคุย พี่เค้าบอกกับพวกเราว่า “ห้องทำงานของพี่สวยไม๊ พี่มีความสุขที่ได้มาทำงานที่นี่ทุกวันเลย งานที่พวกเราทำอาจจะต่างกัน แต่งานที่พวกเราทุกคนทำ มันก็เป็นประโยชน์ต่อกันและกัน ถ้าไม่มีพี่ทำงานตรงนี้ พวกเราก็คงไม่มีไกด์พาเที่ยว หรือถ้าไม่มีพวกเราทำงานธนาคาร พี่ก็คงไม่มีคนดูแลเงินของเค้า”
ถ้าคุณยังมีสุขภาพที่พร้อม ลองขึ้นไปเถอะ คุณจะไม่เสียใจ เพราะป้าๆชาวจีน ดูจากอายุน่าจะประมาณแม่เราได้ เจ๊แกยังพยุงร่างขึ้นไปชมวิวกันไหวเลย ระหว่างการเดินขึ้นไปทางจะเป็นทางแบบ one-way เพราะฉะนั้นอาจจะต้องใช้เวลาและระวังไม่ให้ชนกันตกลงมา ไกด์สาวของเราก็ดูแลทุกคนเป็นอย่างดี คอยนำทางและเปิดทางให้เราได้ขึ้นไปจุดชมวิวเป็นระยะ พร้อมทั้งคอยเช็คความปลอดภัยอยู่เสมอ
เมื่อเดินขึ้นไปถึงจุดชมวิวแล้ว ก็บอกได้เลยว่าไม่เสียเที่ยวจริงๆที่ยอมเหนื่อยเดินขึ้นมา ทั้งร้อนทั้งเจ็บเท้า แต่วิวจากข้างบนนี้มันคือความดีงาม น้ำทะเลสีฟ้าเป็นประกายสะท้อนรับกับแสงอาทิตย์ ยังไงก็ต้องถ่ายรูปมาอวดเพื่อนๆอย่างแน่นอน
เมื่อถ่ายรูปกันได้สักพัก ก็ได้เวลาเดินลงเพื่อไปทานอาหาร โดยอาหารจะเป็นอาหารตัก รสชาติใช้ได้ พวกเรารีบๆกินไม่ได้ใส่ใจกับอาหารมากนัก เพราะจะได้รีบไปใช้เวลาเล่นน้ำหน้าหาด ถ่ายรูปสวยๆกันต่อ