บานาฮิลล์ ( Ba Na Hill )
บานาฮิลล์ ( Ba Na Hill ) เป็นสถานที่เที่ยวในเมืองดานัง ประเทศเวียดนามที่ได้รับความนิยมสูงสุดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากสถาปัตยกรรมที่เรียกกันว่า Golden Bridge หรือ สะพานทองในมือเทพเจ้า จึงทำให้ Ba Na Hills กลายเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
วันที่ผมเดินทางคือวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งเป็นวันที่ฝนตกตั้งแต่เช้า จึงทำให้อากาศและภาพที่ทุกคนจะได้เห็น เป็นภาพที่ไม่ได้สวยสดงดงาม
แต่นี่น่าจะเป็นบรรยากาศ ที่ถ้าหากคุณมาเที่ยวช่วงนี้ก็ต้องเตรียมตัว และเตรียมใจให้เป็นอย่างดี
การเตรียมตัวเที่ยว บานาฮิลล์
สำหรับใครที่แพลนมาเที่ยวเองที่เมืองดานัง ผมแนะนำให้หาทัวร์เพื่อขึ้นไปที่บาน่าฮิลล์ครับ โดยระยะห่างจากเมืองดานังเพียง 40 กิโลเมตรเท่านั้น
และครั้งนี้ผมก็ใช้บริการ KLOOK โดยมีรถทัวร์มารับตามโรงแรมในเมืองดานัง และพาไปเที่ยวแบบวันเดย์ ครบทุกสถานที่ และที่สำคัญ รวมอาหารบุฟเฟต์แบบปัง ๆ แล้วด้วย
ถ้าหากใครสนใจ
คลิกจองทัวร์ผ่านทางลิงก์นี้ได้เลยครับ
โดยปกติแล้วราคาขึ้นกระเช้ารวมอาหารจะอยู่ที่ 990K VND หรือประมาณ 1440 บาท
แต่ถ้าจากกับ KLOOK คุณจะมีรถไปรับไปส่ง ได้ขึ้นกระเช้า และมีอาหารบุฟเฟต์ ในราคาเพียง 1650 บาท แอบกระซิบตรงนี้เลยว่า อาหารคือเริ่ดมาก!
และสิ่งของจำเป็นอื่น ๆ ที่จะต้องเตรียมคือ
- รองเท้าผ้าใบ เพื่อความสะดวกในการเดิน เนื่องจากกระเช้าไกลมาก ต้องเดินเป็นกิโลครับ
- ชุดกันฝน หรือ ร่ม ราคาชุดกันฝนที่ผมซื้อมาคือประมาณ 150K VND ครับ
- ครีมกันแดด เนื่องจากต้องเดินเยอะมาก ครีมกันแดดจะช่วยให้ไม่แสบผิว
เริ่มต้นทัวร์ บานาฮิลล์
ก่อนวันเดินทางหนึ่งวัน ทางทัวร์ จะส่งเมสเสจมาทาง Whatsapp เพื่อนัดหมายวันและเวลาที่จะมารับที่โรงแรม
ทัวร์มารับตรงเวลาเป๊ะ เพราะต้องไปรับหลายโรงแรม
และนี่ก็คือไกด์ทัวร์ของเรา พูดภาษอังกฤษดีมาก ดังนั้นไม่ต้องกังวลเลย
หลังจากนั้น การเดินทางจากเมืองดานังเพื่อไปบานาฮิลล์จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง (ใกล้มาก)
และถนนก็ค่อนข้างดี ไม่คดเคี้ยว
เพราะหลัก ๆ แล้วเราจะใช้กระเช้าในการเดินทางกัน
เมื่อมาถึงที่ทางขึ้นกระเช้า เราจะต้องเดินอีกประมาณ 15 นาทีเพื่อไปขึ้นกระเช้า
และที่นี่มีกระเช้าทั้งหมด 6 สายครับ
เนื่องจากจำนวนคนเยอะมาก เค้าเลยสร้างกระเช้าไว้รองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก และก็กำลังขยายอยู่อีกหนึ่งสาย
สุดยอดมาก
ไกด์แจ้งไว้ว่า เราจะต้องเดินประมาณ 2 กิโลเมตร เพื่อไปกระเช้า ระหว่างทางจะมีบันไดเลือนบ้าง ก็ช่วยลดแรงลงไปได้หน่อย แต่ก็เหนื่อยพอควร
บอกเลยว่า คนอายุเยอะ เดินไม่ไหว อาจจะเหนื่อยแน่ๆ
กระเช้าสายที่เราขึ้น จะใช้เวลาประมาณ 23-25 นาทีครับ
ดังนั้น ใครกลัวความสูง ต้องนั่งหลับตายาว ๆ ไปเลย
และในที่สุดเราก็เดินทางขึ้นมาที่สถานที่เที่ยวที่แรก ชื่อว่า French Village ซึ่งที่นี่จะอยู่ที่ชั้น 1 ของ บานาฮิลล์
French Village หมู่บ้านฝรั่งเศส
หมู่บ้านฝรั่งเศสถูกสร้างขึ้นในยุคที่ฝรั่งเศสเข้ามาในเวียดนาม และมองหาสถานที่เพื่อตั้งรกราก และได้มาเจอกับบานาฮิลล์ซึ่งเป็นภูเขาสูง อากาศเย็นตลอดทั้งปี ซึ่งเป็นภูมิอากาศที่คุ้นชินมากกว่า
หมู่บ้านฝรั่งเศสจึงถูกสร้างขึ้นที่นี่ แต่!! ที่พวกคุณเห็นกันนั้นเป็นการถูกสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด
แต่ฟีลของความเป็นยุโรปก็ยังคงมีอยู่
*** อยากบอกทุกคนตรงนี้เลยว่า หนึ่งสิ่งที่ผมประทับใจมาก ๆ และอยากให้ทุกคนเก็บรายละเอียดเมื่อไปเที่ยวคือ
ที่เที่ยวแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาด้วยความตั้งใจ และเก็บรายละเอียดสุด ๆ
ตกแต่งได้อย่างละเมียดละไม ในทุก ๆ จุด จึงทำให้ไม่รู้สึกว่าที่นี่ถูกสร้างขึ้นมาไม่มีขาด ไม่มีเกิน แม้แต่นิดเดียว
ใน French Village จะประกอบด้วยกิจกรรมและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเช่น
- สวนสนุกกลางแจ้ง
- สวนสนุกในร่ม
- โรงแรม
- ร้านอาหาร
- ร้านกาแฟ
- ชมการแสดง
โดยเมื่อมาถึงแล้ว ไกด์จะให้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเพื่อเดินเล่น ถ่ายรูปและทำกิจกรรมตามอัทธยาศัย
โดยหลัก ๆ แล้วเราก็จะเน้นถ่ายรูปและทานอาหารบุฟเฟต์กันเป็นหลัก
และนี่คือภาพ วันที่เราได้เก็บมาในวันที่ฝนตกกระหน่ำ ได้บรรยากาศไปอีกแบบ
และจุด Highlight ที่ผมชอบที่สุดใน French Village คือ The Grand Cascade เป็นน้ำพุ ที่สร้างขึ้นในสไตล์กรีซ โดยเอาเทพเจ้ากรีซกว่า 40 องค์ที่ทำจากทองเหลืองอร่าม มาประดับไว้บนน้ำพุ
และที่พลาดไม่ได้อีกจุดหนึ่งเลยคือโบสถ์ ที่ตั้งอยู่กลางหมู่บ้าน โบสถ์นี้เป็นเพียงโบสถ์ที่จำลองขึ้นมาเพื่อให้เห็นศิลปะเพียงเท่านั้น
บอกเลยว่าสวยมาก ทั้งข้างนอกและข้างใน
ร้านอาหาร Arapang
ร้านอาหาร Arapang เป็นร้านบุฟเฟต์ ที่มีทั้งหมด 4 ชั้น ถ้าหากคุณซื้อแพคเก็จรวมอาหารกลางวันมาแล้ว ก็เข้าไปทานได้เลย แนะนำให้ไปก่อนสักประมาณ 11.30 น. นะครับ เพราะห้องอาหารคนเยอะมาก จะหาที่นั่งไม่ได้
โดยกลุ่มเราเลือกเข้าไปชั้นที่ 4 เพราะไกด์แนะนำว่าชั้นนี้จะมีอาหารอินเดียด้วย
และบอกเลยว่า อาหารที่ผมกิน อร่อยทุกอย่าง! ยกเว้นของหวาน 5555
เมื่อถึงเวลานัดตอน 13.30 น. ทุกคนก็มารวมตัวกัน เพื่อไปขึ้นกระเช้า ไปยังชั้นที่สอง เพื่อไปยังสะพานทอง ซึ่งใช้เวลาเพียง 3-4 นาทีเท่านั้น
สะพานทองในมือเทพเจ้า Golden Bridge
หนึ่งใน Highlight ของการมาเที่ยวบาน่าฮิลล์คือ การชมสะพานทองคำในมือเทพเจ้าหรือ Golden Bridge นั่นเอง
ในช่วงก่อนโควิด สะพานแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวถึง 30,000-40,000 คนต่อวัน ทำให้สะพานแน่นไปด้วยผู้คน
แต่หลังโควิดมานี้ มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเพียง 10,000 คนต่อวันเท่านั้น จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะมาก ๆ ถ้าหากคุณอยากจะมาเที่ยวที่นี่สักครั้ง เพราะไม่แออัดจนเกิดไป และที่สำคัญ ยังมีโอกาสได้ภาพสวย ๆ ที่ไม่ติดคนมากมาย
สะพานทองออกแบบมาให้เหมือนเป็นเส้นด้ายสีทองในมือเทพเจ้า ความยาวประมาณ 150 เมตรเท่านั้น
ถึงแม้จะเป็นสะพานสั้น ๆ แต่ถ่ายรูปออกมาแล้ว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหนึ่งที่โดดเด่นไม่แพ้ที่ไหน ๆ เลย
สถานที่เที่ยวอื่น ๆ บน บาน่าฮิลล์
ใกล้ ๆ กับสะพาน Golden Bridge ก็ยังมีสถานที่เที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจเช่น สวนดอกไม้ และ Linh Ung Pagoda วัดทางพุทธศาสนาที่มีพระพุทธรูปสีขาวสูงถึง 27 เมตร ที่สามารถมองเห็นได้แต่ไกล
และนี่ก็คือทริปเที่ยวบานาฮิลล์หนึ่งวันจากเมืองดานัง ชอบกันมั้ยครับ?
ถ้าหากใครกำลังคิดจะมาเที่ยวที่นี่ แนะนำเลย จองทัวร์มาก่อน แล้วชีวิตคุณจะง่ายขึ้นมาก
และหลังจากจบทริปนี้ ไกด์ก็จะพาเรากลับไปส่งที่โรงแรม หรือจะเลือกลงระหว่างทางก็ได้เช่นกัน
และเราก็ทิปส์พนักงานและคนขับไป 100K VND
