เป่ยโถว เมืองเล็ก ๆ ที่มีชื่อเสียงด้านน้ำพุร้อน นั่งรถไฟจากไทเปมาเพียงไม่กี่สถานี ก็จะได้พบกับธรรมชาติที่สวยงาม ถือเป็นทริปสั้น ๆที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งเมืองมาเที่ยวไต้หวัน
การเดินทาง สามารถนั่งรถไฟฟ้า MRT สายสีแดงมาลงที่สถานี Beitou เพื่อเปลี่ยนฝั่งไปขึ้นอีกสายหนึ่ง แล้งนั่งอีกหนึ่งสถานีเพื่อไปลงที่สถานที Xinbeito (กาดอกจันตัวใหญ่ ๆ ไว้เลย ว่าสถานีที่ต้องไปลงคือ Xinbeitou ไม่งั้นต้องเดินเป็นกิโลนะครับ)
การเดินทางจากไทเปใช้เวลาประมาณ 30 นาทีเท่านั้น ซึ่งถ้าหากใครวางแผนไปเที่ยวต่อที่ตั้นสุ่ย >> คลิกอ่านทริปตั้นสุ่ย <<<
เมื่อลงจากสถานี Xinbetou (ซินเป่ยโถว) ทางขวามือก็จะมีพิพิธภัณฑ์เล็ก ๆ
Xinbeitou Historic Station
พิพิธภัณณ์แห่งนี้ตั้งอยู่ในสวน Qixing Park โดยอาคารนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1916 ถูกใช้เป็นสถานีรถไฟเป่ยโถวในอดีต และเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ในภายหลัง
สถานีรถไฟเก่า
ฝั่งตรงกันข้าม เราจะเห็น Beitou Park ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่ร่มรื่นมาก สามารถมานั่งแบบชิล ๆ ได้
ห้องสมุดสาธารณะเมืองเป่ยโถว
เดินแค่ประมาณ 5 นาทีจาก Beitou Park ก็จะเห็นกับห้องสมุดเมืองเป่ยโถวที่ตั้งเป็นสง่า ด้วยรูปทรงที่ดูแปลกตา ดูโมเดิร์นแต่ทำจากไม้ มันทำให้ห้องสมุดแห่งนี้เป็นห้องสมุดที่สวยมากที่หนึ่ง ที่สำคัญภายนอกอาคารยังมีที่นั่งให้คนที่ชอบนั่งรับบรรยากาศ ได้นั่งสัมผัสกับธรรมชาติด้วย
ห้องสมุดเป่ยโถวติดอันดับ 1 ใน 25 ห้องสมุดที่สวยที่สุดในโลกปี 2012 (จัดอันดับโดยเว็บไซต์ Flavorwire) และเป็นอาคารแห่งแรกในไต้หวันที่ได้ใบรับรองให้เป็น Green Building ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย
ผู้ออกแบบห้องสมุดแห่งนี้มีชื่อว่า Kuo Ying-chao เขาตั้งใจอยากจะสร้างห้องสมุดที่สามารถหายใจได้ กล่าวคือมันต้องเข้ากันอย่างลงตัวกับสิ่งแวดล้อมรอบข้าง
และห้องสมุดแห่งนี้มีหนังสือมากกว่า 63,000 เล่ม
พิพิธภัณฑ์บ่อน้ำพุร้อน เป่ยโถว
และใกล้ ๆ กันจะมีพิพิธภัณฑ์บ่อน้ำพุร้อนเมืองเป่ยโถว ที่จะบอกเล่าเรื่องราวของเมืองเป่ยโถว
พิพิธภัณฑ์สไตล์วิคตอเรียและการผสมผสานกันระหว่างยุโรปกับโรมันอายุเก่าแก่นับร้อยปีของไต้หวัน ตัวอาคารทำจากอิฐแดง สีสด เห็นมาแต่ไกล ข้างหน้าและข้าง ๆ อาคารจะมีศิลปินนั่งวาดรูปอาคารได้อย่างงดงาม
น้ำพุร้อนเมืองเป่ยโถว ถูกค้นพบโดยชาวญี่ปุ่น เค้าพบว่ามีแร่ธาตุอยู่ในน้ำที่ Thermal Valley ซึ่งเป็นน้ำแร่ที่เหมาะกับการแช่ เมืองเป่ยโถวจึงกลายเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านน้ำพุร้อนในภายหลัง
ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ชั้นล่างสุดเป็นห้องอาบน้ำร้อนสาธารณะ ที่จะมีคนเข้ามาใช้กันอย่างแพร่หลาย บรรยากาศสไตล์โรมันโบราณ คงให้ความรู้สึกเหมือนแช่บ่อน้ำศักดิ์
ห้องอาบน้ำสาธารณะนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1913 ในช่วงที่ไต้หวันถูกปกครองโดยญี่ปุ่น หลังจากที่ญี่ปุ่นได้มอบไต้หวันคืนให้กับจีน สถานที่แห่งนี้ก็ถูกทิ้งร้างจนกระทั่งถูกค้นพบอีกครั้งในปี 1995 ซึ่งในตอนนั้นสภาพก็เสื่อมโทรมลงไปเยอะจนต้องมีการบูรณะ
กระจกสีถูกทำลายจนแตก แต่ชาวบ้านที่เคยมาวาดรูปตัวอาคาร ก็ได้นำภาพของตนเองมาให้กับนักสถาปัตยกรรมเพื่อเป็นแบบให้สร้างออกมาเสมือนของเดิมมากที่สุด
ประตูสีเขียวที่เห็นเป็นช่องสำหรับแคชเชียร์ ที่คอยยื่นผ้าเช็ดตัวให้กับผู้ที่มาใช้บริการ
ส่วนชั้นที่สองก็จะเป็นพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ และพื้นที่สันทนาการที่ปูพื้นด้วยเสื่อทาทามิแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ให้เข้าไปนั่งเล่น พักผ่อนกันก่อนได้แบบสบาย ๆ
เดินต่อไปเรื่อย ๆ อีกประมาณ 10 นาที ระหว่างทางจะเป็นลำธาร มีต้นไม้ มีทางเดิน ให้เดินรับบรรยากาศ ช่วงเดือนตุลาคม อากาศยังไม่เย็น เดินได้สบาย ลมพัดหน่อย ๆ ดีต่อใจมาก ๆ
จุดไฮไลท์ที่สุดของเมืองเป่ยโถวคือ บ่อน้ำพุร้อนเมืองเป่ยโถว/ Thermal Valley ที่ทุกคนห้ามพลาดเด็ดขาด
บ่อน้ำพุร้อนเมืองเป่ยโถว/ Thermal Valley
ให้สังเหตุทางเข้า จะมีร้านค้าอยู่ประมาณ 4 -5 ร้าน เพราะตอนแรก เราไม่เห็นป้าย เดินเลยขึ้นเขาไปเลยจ้า
พอเดินเข้าไปในบริเวณบ่อน้ำพุร้อน Thermal Valley แค่เห็นจากไกล ๆ ก็ร้องว้าวว แล้วอะ มันคือ magical moment อะ พอลมพัดควันจากน้ำร้อนฟุ้งขึ้นมา มันสวยมาก ดูเหมือนมีมนต์ 555
จุดชมวิวบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติจากภูเขาไฟ ที่อุดมด้วยแร่กำมะถัน
อุณหภูมิของน้ำอยู่ที่ประมาณ 80 – 100 องศา แค่ยืนใกล้ ๆ ก็สัมผัสได้ถึงไอร้อนแล้ว
บรรยากาศลำธารระหว่างเดินทางกลับ
เป่ยโถว เป็นหนึ่งในที่เที่ยวไต้หวันที่ไม่ควรพลาด เพราะอยู่ไม่ไกลจากไทเป ใช้เวลาเดินทางแค่ 30 นาทีก็ได้มาพบกับบ่อน้ำพุร้อน ที่มีควันพวยพุ่ง แปลกตา ไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็นสักเท่าไรนัก เป็นทริปหนึ่งวันที่อยากแนะนำให้ใส่เอาไว้ในแผน ไม่ควรพลาดเลยจริง ๆ ครับ
