fbpx
Homeเที่ยวเอเชียเกาหลีเที่ยวกินจนตัวแตกที่เกาหลีใต้ จากโซลถึงปูซาน (ฉบับเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง)

เที่ยวกินจนตัวแตกที่เกาหลีใต้ จากโซลถึงปูซาน (ฉบับเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง)

Klook.com
- Advertisement -
- Advertisement -

เมืองยอดนิยมของประเทศเกาหลีคงจะหนีไม่พ้นโซลและปูซาน วันนี้เที่ยวตามใจคุณจะขอเอาทริปเกาหลีมาเขียนใหม่ ทริปนี้ยังเป็นทริปที่อยู่ในความทรงจำของเราเสมอมา เพราะรักประเทศนี้มาก ไปเที่ยวกี่ครั้ง ๆ ก็มีแต่เรื่องราวดี ๆ มาบอกต่อ งั้นเราไปเที่ยวโซลและปูซานตามฉบับเที่ยวตามใจคุณกันเลย!

เที่ยวโซลด้วยตัวเอง (หมู่บ้านบุกชอนฮันอก, หอคอยโซลทาวเวอร์, ห้าง Sinsa และเมียงดง)

ครั้งนี้เรามาเที่ยวเกาหลีในช่วงเดือนกรกฏาคม คือเป็นช่วงหน้าร้อนของเกาหลี บอกได้เลยว่าร้อนมาก ร้อนชื้น ร้อนสู้พี่ไทยของเราได้เลย

วันแรกเราเดินทางไปเที่ยวที่ Bukchon Hanok Village เป็นหมู่บ้านวัฒนธรรม ที่ตั้งอยู่บนเนิน สามารถนั่งรถไฟใต้ดินสายสาม ลงที่ Anguk Station ออกทางออกที่ 2 และเดินอีกประมาณ 500 เมตร ก็จะถึง คือพูดได้เลยว่า เกาหลีหน้าร้อน คือร้อนอบอ้าว ร้อนกว่าเมืองไทย หายใจไม่ออก การเดินเที่ยว Bukchon Hanok Village เลยเป็นไปอย่างรีบๆ รีบๆเดิน รีบๆถ่ายรูป เพราะเหงือแตกซิก

หมู่บ้านวัฒนธรรมนี้ถูกอนุรักษ์เอาไว้ ซึ่งตอนแรกเราคิดว่า เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ ไม่มีคนอาศัยอยู่ แต่ความจริง คือมันเป็นบ้านคนจริงๆ มีคนอาศัยอยู่จริง ๆ เค้าจะมีป้ายเขียนตลอดทางว่าห้ามเสียงดังรบกวน ดังนั้นคนที่ไปเดินเที่ยวที่นี่ก็ต้องรักษามารยาท เดินกันอย่างเงียบสงบ อย่าโหวกเหวกโวยวายนะจ๊ะ


เดินไต่เขาขึ้นมาสักหน่อย ก็จะเป็นมุมมหาชน ที่ใคร ๆ ก็ต้องหยุดถ่ายรูป เพราะจะได้เห็นวิวเมือง และยังได้บรรยากาศเก่าแก่จะหมู่บ้านแห่งนี้
หลังจากที่เดินบ่นว่าร้อน เหงื่อท่วมตัว เสื้อเริ่มเปียก นังคริสเพื่อนร่วมทริปเกิดอาการทนไม่ไหว จึงต้องเสิร์ชหาห้างเพื่อไปคลายร้อน ซึ่งห้างในเกาหลีก็มีประเภท Lotte, Coex Mall  ตามนี้ แต่ด้วยความที่เราเคยไปกันมาแล้ว เราเลยลองไปห้างแปลกๆ ซึ่งที่นี่มีชื่อว่า  Daeseong D-Cube City

เมื่อถึงที่ห้างเราก็เริ่มหิวกันได้ที่ นังคริสเมื่อเห็นร้าน Bongchu Chicken ก็รีบเรียกให้มาดู นางแนะนำว่านางเคยกิน นางเคลมว่าร้านนี้อร่อย ร้านอยู่ชั้น 5 หรือ 6 นี่แหละ เป็นโซนร้านอาหาร สิ่งที่เราสั่งคือ Dakjim ขนาดกลาง รสชาติหวาน ๆ เค็ม ๆ มีเส้นเหนียวหนึบ ต้องกินดี ๆ นะ เพราะอีเส้นบ้านี่คือเหนียมหนึบมาก กินไม่ดีอาจจะติดคอ หายใจไม่ออกได้ เราสั่งมากินกับข้าว ในจานมีไก่สับมาเป็นชิ้นติดกระดูก สำหรับกินสองคนเราคิดว่าขนาดเล็กน่าจะพอ ส่วนตัวแล้วชอบอาหารจานนี้มาก อยากกินอีก



หลังจากทานอาหารและเดินเล่นช้อปปิ้งไปสักพัก เราก็เกิดอาหารอยากของหวานขึ้นมา เพราะ “ใครไม่หวาน เบาหวาน!!!” ฮ่า ๆ มุกไก่กา

ซึ่งสิ่งที่ผุดเข้ามาในหัวอย่างแรกคือร้าน  Remicone  ซึ่งเป็นร้านดังที่ใคร ๆ ก็ต้องมาทาน เพราะพรีเซนเทชั่นของร้านนี้คือดี แปลกตากว่าขนมร้านอื่น
เมื่อตัดสินใจได้แล้ว เราก็เดินทางกันไปที่ สถานี Sinsa ออกทางออก 8 ซึ่งพอ ออกมาแล้ว จะเจอร้านค้ามากมาย ร้านจะอยู่ในซอยลึกสุดอะไรสุด ตอนแรกเราก็ยอมแพ้ไปแล้ว แต่ด้วยความอยาก ก็หาเจอจนได้ เราเอาแผนที่มาแปะไว้ให้เผื่อตามไปกันนะจ๊ะ

สิ่งที่เราสั่งคือ Thunder Bomb ราคา  6100 Won ซึ่งน่าจะเป็นของขึ้นชื่อของร้านนี้เลยหละ เห็นใครๆมาก็ต้องสั่งเจ้านี่
ส่วนตัวแล้วคือไม่ชอบอีปุกปุยข้างบน คือมันมีรสชาติแปลกๆ เหมือนกินสมุนไพร เราหยิบทิ้งไปสามก้อน คนข้างๆหันมามองแปลก ๆ แต่อย่าได้แคร์ ถ้ามันไม่อร่อย แต่ความเด็ดมันอยู่ที่ไอศครีม พอเราตักไอศครีมเข้าปากเท่านั้นแหละ มันมีการแตก เหมือนขนมเป๊าะแป๊ะที่กินแล้วแตกในปากตอนเด็ก ๆ แต่มันเข้ากับเนื้อไอศครีมอย่างลงตัว ไอศครีมก็เข้มข้นได้ใจ ส่วนตัวแล้วคิดว่าถ้าสั่งแบบอื่น อาจจะประทับใจกว่านี้ ไอ้นี่ได้แค่ถ่ายรูปสวยนะจ๊ะ

ย่าน Sinsa นี้ เราว่าเป็นย่านวัยรุ่นทีเดียวเชียว มีร้านเสื้อผ้าน่ารักๆมากมาย ร้านเครื่องสำอาง รวมไปถึงร้านกาแฟาน่านั่งหลายร้าน ตอนเย็น ๆ ก็เห็นวัยรุ่นหนุ่มสาวจูงมือกันมาเดินเพียบ ส่วนตัวก็หมดเงินไปที่นี่หลายวอนเหมือนกันจ้ะ

สถานที่สำคัญที่ใครๆมาเกาหลีใต้ ก็ต้องมาที่นี่ นั่นก็คือ N Seoul Tower ซึ่งมี Love Locks ที่คู่รักจะมาคล้องกุญแจร่วมกัน

ความจริงก็ไม่ได้อยากมาเท่าไรหรอก เหม็นความรัก 555 มีแต่คู่รักเดินจูงมือกันมา กลัวหายรึไง!!!

การเดินทางมาที่ N Seoul Tower เราเลือกเดินทางด้วยรถบัส ซึ่งค่อนข้างสะดวก แต่คนเยอะมาก ๆ เนื่องจากเป็นช่วงเย็น ชาวจีนขึ้นมาเที่ยวที่นี่กันเยอะ ก็อาจจะต้องยืนไปตามปริยาย บางคนเดินขึ้นจากตีนเขาก็มี แต่เหนื่อยแน่ ๆ  เพราะมันชันมาก ๆ






หลังจากเดินเล่นจนเหนื่อยที่ N Seoul Tower ที่พลาดไม่ได้ ก็คือการเดินเล่นตลาดเมียงดง ซึ่งอยู่ใกล้กับ N Seoul Tower นี่แหละ แต่กว่าจะลงจากหอคอยได้ก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมง เนื่องจากรถบัสไม่มาสักที นั่งรอก็แล้ว นอนรอก็แล้ว แต่สุดท้าย รถก็มา เรามุ่งตรงไปร้านอาหารชื่อดัง ที่เป็นที่นิยมของคนไทยนั่นคือ James Cheese Ribs พอไปถึง ก็เลือกๆว่าจะเอาขนาดไหน ซึ่งเราสั่งเป็นขนาดกลาง จ่ายกันไปคนละ 18,000 Won รวมข้าว
พออาหารมาเสิรฟ พนักงานก็จะโชว์วิธีการกินหนึ่งรอบ คือหยิบ Rib ขึ้นมาแล้วก็เอาชีสพันๆวนๆ แล้วก็กินได้เลย
สำหรับเรา คือเราคิดว่ามันอร่อยได้กว่านี้ คือ ​Ribs ไม่มีรสชาติ ความดีงามเทให้ชีสล้วนๆ แต่ชีสก็คือชีส มีความหนึบ ความหอม ปริมาณที่ได้รับกับราคาที่จ่ายไปคือไม่โอเค ถามว่าทำไมถึงดัง คนไทยนิยม คงเป็นเพราะความแปลกใหม่หรือเปล่า? โดยส่วนตัวไม่ชอบ แล้วก็ไม่แนะนำใครถ้าอยากกินของอร่อยๆ แต่ถ้าหาความแปลกใหม่ ที่นี่ก็โอเค ไปลองดู

แต่ตอนนี้ร้านนี้ก็ได้มาเปิดที่ประเทศไทย ที่ห้างเซนทรัลเวิร์ดแล้ว ถ้าสนใจ ไม่อยากไปถึงเกาหลี ก็มาลองกันก่อนได้ที่นี่เลย

ข้อมูล : James Cheese Ribs Thailand


พาเที่ยวปูซาน ประเทศเกาหลี

สำหรับวันที่สอง เราจะออกเดินทางไปเที่ยวปูซาน เมืองชายทะเล เราเริ่มเดินทางจาก Seoul Station ซึ่งเพื่อนเราได้ไปซื้อตั๋วรถไฟล่วงหน้าไว้แล้ว สามารถเช็คราคา และรอบรถได้ที่ Lets Korail

การเดินทางใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงก็ถึง Busan  Station ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทาง สำหรับใครที่จะมาเที่ยว แนะนำให้เติมเงินใส่ T-Money  เผื่อเอาไว้ เพราะที่นี่หาตู้เติมตังยาก

เมื่อถึงเราก็นั่งรถไฟไปที่โรงแรม ซึ่งเราจองเอาไว้ที่ haeundae beach (แฮอึนเด) ซึ่งเป็นชายหาดยอดนิยมของเมืองนี้ เราใช้เวลานั่งรถไฟนานกว่า 1 ชั่วโมงกว่าจะถึงโรงแรม เมื่อถึง รร แล้วก็สบายใจ เพราะห้องโรงแรมโอเคมาก วิวชายหาด ห้องกว้าง สะอาด ห้องน้ำโอ (โรงแรมชื่อว่า MS Hotel เผื่อใครสนใจ เดินประมาณ 600 เมตรจากสถานีรถไฟ)

เราเก็บของที่โรงแรมเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาทานอาหารกลางวัน วันนี้เราเจอร้านนึงดูน่ากินมาก มันเป็น Dakgalbi (ทัคคาลบี้) เป็นเนื้อผัดๆกับผัก ใส่ข้าวหรือเส้นก็ได้ เรามากินร้านนี้ถึงสองครั้ง คือมันอร่อยมาก อันที่เราสั่งเป็นแบบเผ็ด คือแซบคือดี แต่ถ้าคนไม่กินเผ็ดอาจจะไม่โอเคเพราะเผ็ดมาก แต่ส่วนตัวคือชอบมาก แต่อาจจะสื่อสารกันลำบากหน่อย เพราะเค้าไม่พูดอังกฤษกันเลย ก็ได้แต่จิ้มๆ เสี่ยงโชคกันไป ลองไปชมกันเลย






การเที่ยวปูซาน จะเริ่มต้นขึ้นนับจากจุดนี้เป็นต้นไป เราแพลนเอาไว้ว่าจะไปเที่ยวหลายที่มาก แต่สุดท้ายก็ไปได้แค่ที่เดียว เพราะเวลาจำกัดมาก นั่นคือ Taejongdae Park ซึ่งเป็นสวนสาธารณะติดทะเล สวนนี้สามารถเดินทางไปด้วยรถบัส คือขึ้นรถสาย 101 ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ Busan Station พวกเรานั่งรถประมาณ 45 นาที ก็จะถึง เราเดินจนครบทั้งสวน คือมันเดินได้ชิวๆ ผ่อนคลาย ฝนตกหน่อยๆ แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคของพวกเรา วิวจากที่นี่คือสวยงามจริงๆ ถามว่าคุ้มไม๊กับการนั่งรถมาที่นี่ ตอบเลยว่าคุ้ม พวกเราปีนป่ายก้อนหิน จนได้รูปสวยๆเยอะเลยหละ และนี่คือบรรยากาศรอบๆ








หลังจากเดินเล่นที่นี่กว่าสามชั่วโมง ก็ถึงเวลาที่เราจะกลับโรงแรม และเวลาอันแสนสุขของพวกเราก็คือ การทานอาหาร
ถ้ามาปูซานแล้วไม่ได้ทานอาหารทะเล ก็คงจะพลาดมากๆ เราก็เลยจัดชุดใหญ่ สั่งอาหารทะเลมาเผา และอีกจานคือผัดทะเล
หอยเผา กุ้งเผา ก็สดโอเคใช้ได้เลยหละ แต่ไม่มีน้ำจิ้มซีฟู้ดนี่สิ

ในส่วนของหอยเผา หอยยังเต้นตุบๆอยู่เลย พอกินก็อย่างที่เห็น กระจายสิจ๊ะ 555

และก่อนที่เราจะเข้าโรงแรม เราก็เดินเล่นที่ Haeundae Beach นี่ขนาดสี่ทุ่มแล้ว ยังมีคนเดินเล่นกันเป็นคู่ บ้างก็มากันเป็นกลุ่ม มีคนเล่นดนตรีตามชายหาดรับเงินบริจาคกันไป และนี่คือบรรยากาศก่อนเข้านอนคืนนี้

ตื่นเช้ามา พวกเราก็รีบกันสุดๆ เพราะรถที่เราจองกลับโซลเป็นรอบบ่ายสาม อีกหนึ่งสถานที่ที่เราอยากไปนั่นคือวัด Haedong Yonggungsa Temple ซึ่งเราสามารถนั่งรถบัสสาย 1003 ใกล้ๆสถานี Haeundae-gu ใช้เวลาประมาณ  20 นาทีก็ถึง พนักงานรถบัสใจดีบอกเราด้วยว่าถึงป้ายแล้ว ก็ถีบเราลง พอลงมาชักงงๆ ดูเหมือนอยู่กลางป่าเขา ไม่มีคนสักเท่าไร พวกเราต้องเดินเข้าไป ประมาณ  500 เมตร ก็จะถึงตัววัด

วัดนี้เป็นวัดที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของเมืองปูซาน เนื่องจากตั้งอยู่บนหน้าผา ติดกับทะเล จึงทำให้มีวิวที่สวยงาม วัดนี้เป็นวัดสำหรับชาวพุทธ จึงมีพระพุทธรูปทรงต่างๆเต็มไปหมด และมีคำสอนแนวพระพุทธศาสนาในหลายจุด












ระหว่างทางเดิน ก็เจอนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ชาวจีนมาไหว้พระขอพรกันประปราย
แต่วันที่มาอากาศค่อนข้างชื้นและร้อน ทำให้เรารีบๆเดิน รีบๆกลับ
แต่ก็ใช้เวลาไปกว่า 2 ชั่วโมงในการเดินชมวัดแห่งนี้
ถ้าใครมาปูซาน นี่คงเป็นหนึ่งสิ่งที่พลาดไม่ได้เลยหละ

และแล้วพวกเราก็กลับโซล คืนสุดท้ายของพวกเรา เราก็เดินเล่นกันในเมียงดง ช็อปปิ้งกันมันส์เลย ทั้งเสื้อผ้าทั้งเครื่องสำอาง
ในส่วนของอาหาร นี่คือเก็บตกรีวิวบางส่วนที่เมียงดงนะจ๊ะ

รีวิวเก็บตกอาหารเกาหลี

ขนมปลาอ้าปาก
ความเห็นส่วนตัว : ปลาน่าจะทำการอ้าปากเป็นเวลากว่าสิบชั่วโมง ทั้งเหนียว ทั้งหนืด ในส่วนของไอศครีมคือวานิลา หวานๆ ใช้ได้ ส่วนสีเหลืองๆข้างบนไม่แน่ใจว่าอะไร แต่กรุบกรอบ หวานเชี๊ยบ

Egg Bread
ความเห็นส่วนตัว : ตอนแรกคิดว่ามันน่าจะนุ่ม ละมุน หวานๆ มีความเยิ้มของไข่ แต่ที่ไหนได้ แข็งปาหัวหมา เหมือนทิ้งตากลมไว้ทั้งวัน ไม่ใช่ลมธรรมดานะ ต้องพายุแน่ๆ ถ้าจะกิน ลองกินร้านที่ทำเสร็จใหม่ๆ น่าจะละมุน

นมสตอ
ความเห็นส่วนตัว  : โอเค นมสตอ คือสตอ

นมกล้วย

ความเห็นส่วนตัว : สูตร light คือดี ไม่ต้องกล้วยมาก ไม่หวานมาก ชอบสูตรนี้ เลิฟเลย

นมกล้วย เกาหลี

ยาคูลท์เกาหลี ใช่ชื่อแบรนด์นี้เปล่าไม่รู้

ความเห็นส่วนตัว : ไม่หวานเท่ายาคูลท์ที่ไทย ไลท์ดี แต่ไม่ค่อยชอบ

Gongcha ชานมขึ้นชื่อจากไต้หวัน
ความเห็นส่วนตัว : ใช้ได้ ไม่ได้เลิสเลอมากมาย ไข่มุกไม่นุ่ม ไม่หนึบ ชากลมกล่อม สามารถเลือกปรับความหวาน และเพิ่มน้ำแข็งได้ตามความชอบ ลองมาชิมดู

Milk Cream @ Paris Baguette
ความเห็นส่วนตัว : ชอบ ครีมนุ่ม ขนมปังนุ่ม เหมือนมีร้านที่ไทย ทำแบบนี้ขายเหมือนกัน แต่อันนั้นขนมปังแข็ง ครีมมันๆ ถ้าชอบแนวครีมๆ ลองดู เลิส

Cream Roll ที่ร้าน angel in us coffee

ความเห็นส่วนตัว : แป้งร่วนเว่อ แข็งไม่ถูกปาก ครีมพอใช้ได้ ไม่ต้องกิน เปลืองเงิน!

Cheese Icecream@ Soft Tree อันนี้กินที่ Busan แต่เหมือนจะมีสาขาที่ Honda
ความเห็นส่วนตัว : ดีงามพระรามสี่ ชีสหอมๆ ไอศครีมหวานเข้มข้น กรวยกรอบ ไม่เหนียว ไอศครีมลงมาถึงปลายโคน เลิส เรคคอมเมนด์

ไอศครีม เมียงดง

ความเห็นส่วนตัว : ถ่ายรูปสวย แปลกดี ไม่มีที่ไทย แต่ราสชาติก็งั้น ๆ ไอศครีมไม่ริช ไม่เข้มข้น
ไอศครีม เมียงดง

Hokkaido Cheese Toast ขนมปังทอดไส้ชีส ย่านฮงแด

ความเห็นส่วนตัว : ชอบ อร่อย ชีสหนึบ ขนมปังกรอบ พ่อค้าน่ารัก

ทั้งหมดคือความคิดเห็นส่วนตัว แต่ละคนอาจจะชอบต่างกัน ไม่ว่ากันจ๊ะ

และเราขอปิดทริปเกาหลี เที่ยวโซลถึงปูซานไว้เท่านี้ และฝากติดตามทริปเกาหลีอื่น ๆ ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

คุณ
คุณ
เจ้าของเพจเที่ยวตามใจคุณนะครับ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคน หวังว่าบทความท่องเที่ยวที่เขียนขึ้นมาจะเป็นประโยชน์นะครับ แล้วมาคุยกันนะครับ

บทความน่าสนใจ