fbpx
Homeเที่ยวอเมริกาChicagoเที่ยว Chicago/ชิคาโก้กับโอ้ปป้า เมืองดีๆที่แนะนำให้มาซ้ำแล้วซ้ำอีก

เที่ยว Chicago/ชิคาโก้กับโอ้ปป้า เมืองดีๆที่แนะนำให้มาซ้ำแล้วซ้ำอีก

Klook.com
- Advertisement -
- Advertisement -

เที่ยวชิคาโก้ ประเทศอเมริกากับโอ้ปป้า เมืองดีๆที่ต้องมาซ้ำ

ชิคาโก้ (Chicago) เมืองแห่งสายลม เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในรัฐอิลลินอยส์ ที่ได้ฉายานี้ก็เพราะเป็นเมืองที่ลมแรงมากตลอดทั้งปี แต่ชิคาโก้ก็ยังเป็นเมืองที่ไม่ว่าจะมาฤดูไหน ก็สามารถเที่ยวได้ทุกฤดู และแต่ละฤดูก็มีเสน่ห์ของมัน ซึ่งครั้งนี้เราจะไปเที่ยวชิคาโก้ในช่วงก่อนเข้าหน้าหนาวกัน

ไปเที่ยวชิคาโก้พร้อมกันเลย!

เสียงบ่นของผู้โดยสารดังขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะไฟลท์ถูกแคนเซิล และดีเลย์อย่างไม่มีกำหนด อาจด้วยสาเหตุเพราะพายุหิมะ เครื่องบินจึงไม่สามารถออกจากสนามบินได้ หนึ่งในผู้โดยสารที่โวยวายมากที่สุด คือพี่มืดหญิงผมยาวตัวบึ้ก ส้นสูง5นิ้ว ตะโกนบอกผู้คนในบริเวณว่า Don’t Recommend Chicago! It has nothing to offer (เมืองนี้มันไม่มีอะไรเลย อย่าแนะนำให้ใครมาเมืองนี้นะ)
สิ้นเสียงของพี่มืดคนนั้น ภาพในหัวของเราก็แล่นไปถึงวันแรกที่เรามาถึง เราคิดทบทวนอีกครั้งว่าคำพูดของพี่มืดมันจริงหรอวะ

เราเดินทางจากเดนเวอร์ (Denver) ถึง Chicago O’Hare เวลาประมาณ 10.00 น. พอมาถึงก็ไปรับกระเป๋า พร้อมเดินทางเข้าเมือง การเดินทางเข้าเมืองครั้งนี้เราเลือกที่จะใช้บริการรถสาธารณะ CTA ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. เราเลือกซื้อพาสแบบ 3 วัน เสียเงินไป 20$  ถือว่าใช้คุ้มเลยหละ (ปกติจะต้องเสีย 25$ แต่ถ้าลงทะเบียน ยอมเสียเวลาหน่อยก็เสียแค่ 20$ ซึ่งต้องไปบอกพนักงานว่าจะขอ Register บัตร แล้วก็ไปโทรศัพท์ตามขั้นตอนในกระดาษสีเหลือง) การเดินทางที่นี่เราจะใช้บัตร CTA ตลอดการเดินทาง ข้อมูลการเดินทางในชิคาโก้ คลิก

เราซื้อบัตรเรียบร้อยแล้ว แต่เพื่อนที่ไปด้วยกันนะสิ ขอเรียกว่าโอปป้าก็แล้วกัน ฮีเกิดปัญหาเพราะเครื่องไม่ปล่อยบัตรออกมา แต่เสียเงินไปแล้ว โอ้ปป้าเลยต้องไปหาพนักงานสายโหดแห่งชิคาโก้ ตอนแรกก็คิดว่า ก็ขอ Refund สิ จะได้จบๆแล้วก็จ่ายเงินสด แต่มันไม่ง่ายแบบนั้นนะสิ มันจะต้องผ่านขบวนการมากมาย ซึ่งพนักงานทั้งสองคนก็ไปทะเลาะกันเอง ต้องรอคนที่มีอำนาจมาทำ ซึ่งอาจจะเสียเวลานานเป็นหลายชั่วโมง พวกเราโชคดีมากที่เจอพนักงานโอเค ฮีเลยตัดปัญหา โดยเอาเงินของตัวเองมาให้โอปป้า จากเหตุการณ์ณ์ครั้งนี้ พวกเราสองคนรับรู้ได้เลยว่าคนในเมืองใหญ่ ไม่มีใครมาสนใจใครจริงๆ ต่างคนต่างอยู่ ไม่ค่อยมีมิตรสัมพันธ์เท่าไร การทักทายของคนที่นี่ก็ไม่เหมือนคนเมืองเล็ก ที่จะทักทายถามสารทุกข์

เมื่อได้ฤกษ์แล้ว เราก็เดินทางเข้าเมืองกันเลยยย

พวกเราจองที่พักเป็น Hilton Chicago  ถือว่าทำเลดีมาก คือตั้งอยู่ใกล้ State Street  ซึ่งถือว่าเป็นดาวทาวน์ของที่นี่ และอยู่ใกล้ Cloudgate งานศิลปะชื่อดัง ที่ใครๆก็ต้องมาถ่ายรูป ซึ่งอีกชื่อหนึ่งคือ The Bean เพราะมีหน้าตาคล้ายถั่วนั่นเอง โดยผลงานชิ้นนี้สร้างขึ้นโดย Anish Kapoor และตั้งอยู่ที่ Millennial Park

เดอะบีน/The Bean

เมื่อเดินทางลากกระเป๋าถึงโรงแรม พอเราเก็บของเรียบร้อยแล้ว ก็รีบไป Cloud gate กันเลย
ภาพจินตนาการของเราคือแบบนี้

แต่ในความเป็นจริง อยากจะกรี๊ดออกมา (ทำไมคนมันเยอะขนาดนี้) แล้วฉันจะถ่ายรูปยังไงให้สวยเนี่ย แต่สุดท้าย เราก็ได้รูปแบบนี้มา ก็ต้องทำใจกันไปเนาะ


สาวเสื้อแดงคือเพื่อนที่อยู่ที่ชิคาโก้ โดยนัดมาเจอกันวันสุดท้ายของทริป

หลังจากไป The Bean เราก็ไปเดินเล่นกันในดาวทาวน์ แสง สี และคนพลุกพล่าน ตื่นเต้นมากๆ และที่สำคัญแหล่งช้อปปิ้งเยอะมากเลยหละ

จากการสังเกตุ ครอบครัวมักจะพาเด็กๆออกมาเดินดาวทาวน์ เพราะช่วงนี้เค้าจะมีการตกแต่งตู้กระจกเป็นการ์ตูนน่ารักๆให้คนมาถ่ายรูป ซึ่งธีมในปีนี้คือ Universe ตู้กระจกจะเปลี่ยนธีมไปทุกปีเพื่อดึงดูดลูกค้า ซึ่งภาพข้างล่างมากจาก Marshall (111 N State St, Chicago, IL 60602)

จุดชมวิวจอห์นแฮนค็อก/John Hancock Tower

วันที่สองพยากรณ์อากาศคาดว่าฝนจะตกหนักตอนกลางคืน เราก็เลยบอกโอปป้าให้ไปขึ้นตึกวันนี้นี่แหละ หวังว่าถ้าฝนมันตกหนัก มันคงไม่มีหมอกหรอก ตอนเช้าเราเดินทางไปขึ้น John Hancock Tower ซึ่งเป็นตึกที่มองเห็น Chicago แบบ360 องศา และไฮไลท์ของตึกนี้คือ Tilt  คือให้ไปยืนแล้วมันจะเอียงให้เราลงไปมองตึก หวาดเสียวสุดๆ ตอนแรกเรากะว่าจะเล่น แต่พอโอ้ปป้าเริ่มหน้าซีด เราก็เลยไม่เล่นดีกว่า

หลังจากลงจาก John Hancock Tower ก็ได้เวลาไปเดินเล่นที่ถนน N.Michigan ซึ่งเป็นถนนที่มีแต่ร้านค้ามากมายให้ช็อปปิ้ง เช่น Topshop, Zara, UNIQLO, Burberry, H&M, Forever21 และอีกมากมาย

วิลลิสทาวเวอร์/Willis Tower

ช่วงเย็นเรามีแพลนจะไปขึ้น Willis  Tower กัน คนส่วนใหญ่รู้จักในชื่อ ​​Sears Tower ซึ่งเคยเป็นตึกทำงานของพนักงาน ​Sears ซึ่งมีชื่อเสียงด้าน Department Store ในอดีต ตึกนี้มีชื่อเสียงเพราะมีกระจกใสยื่นออกไปข้างนอกตึก และเป็นแลนมาร์คที่ใครๆก็ต้องมาถ่ายภาพที่นี่ พอเราไปถึงตึกฝนก็ตกหนักตามที่คาดไว้ เจ้าหน้าที่บอกกับเราว่า “ขึ้นไปก็มองไม่เห็นอะไร จะขึ้นไม๊”
เราตัดสินใจกันสักพัก โอ้ปป้าบอกว่า ถ้าไม่ขึ้นก็ไม่ได้มาอีกแล้วนะ เราก็เลยตัดสินใจขึ้นไป
ผ่าน Security จ่ายเงิน 19.50$ แล้วก็ได้ขึ้นไปอยู่ที่ความสูงของตึก 103 ชั้น
พอลิฟต์เปิดออกเท่านั้นแหละ เราหันไปถามโอปป้าว่า ใครเอาผ้าม่านมากันไว้วะ! แต่เดี่ยวๆ พอเดินเข้าไปใกล้ๆ นี่มันไม่ใช่ผ้าม่านนะ นี่มันหมอก ความรู้สึกตอนนั้นคือพลาดและเสียใจ แต่ยังไงฉันก็จะรอ

เรานั่งรอไปประมาณ 30  นาที ท้องฟ้าเริ่มเป็นใจ เราได้เห็นแสงไฟของเมืองชิคาโก้แล้ว ทุกคนดีใจ รีบวิ่งไปที่กระจกใส เพื่อเตรียมถ่ายรูป ทุกคนต้องรีบเพราะเดี๋ยวเมฆจะมาบังอีกครั้ง และในที่สุด เราก็ได้เห็นความสวยงามของเมือง และยังได้รูปสวยๆมาด้วย

เราลองมานั่งคิดดู ข้อดีของการขึ้นตึกวันนี้คือคนไม่เยอะ ปกติ จะต้องต่อคิว 30-40 นาทีกว่าจะได้ขึ้น แล้วไหนจะต้องรอคนยืนถ่ายรูปอีก วันนี้สบายมาก ถ่ายรูปได้อย่างชิลๆ ไม่ต้องแคร์ใคร ถ้าใครจะมาเที่ยวชิคาโก้ช่วงธันวาคม แล้วเจอเหตุกาณ์แบบเรา ก็ลองพิจารณาดูว่าจะขึ้นหรือไม่ดี

วันที่สาม เราเทโอ้ปป้า ให้ไปเดินดูงานศิลปะที่ Chicago Institute of Art ส่วนเราจะไปเดินดูเมือง ดูตึกเก่าสักหน่อย

เพื่อนเล่าให้ฟังว่า ชิคาโก้เคยถูกไฟไหม้คร้งใหญ่ ตึกรามบ้านช่องพังราบ จนสถาปานิกชื่อดังในอเมริกาจะต้องย้ายมาช่วยออกแบบผังเมือง และรักษาตึกเก่าที่ยังอยู่ไว้ให้สมบูรณ์ที่สุด และนี่คือเหตุผลที่เมืองนี้มีผังเมืองและทัศนียภาพที่สวยงามมาก

บริเวณนี้คือหน้าตึกTrump Tower ซึ่งจะมีทั้งตึกไสตล์โมเดิร์นและแบบโบราณผสมกันรียงราย

และนี่ก็คือวันสุดท้ายของเราที่ชิคาโก้

ลองมานั่งคิดๆดูที่ผู้หญิงคนนั้นพูดก็ไม่เห็นจะจริงเลยนะ ตลอดเวล า3 วันที่นี่ มันสนุกมาก เวลาหมดไปไวมาก และตอนนี้เราคิดว่า Chicago/ชิคาโก้ คือเมืองที่เราชอบมากที่สุดในอเมริกา จากที่เราเคยไปมา (ตอนนี้ Vegas ตกจากอันดับแรกไปได้เลย) ถึงแม้ว่าวันสุดท้ายเครื่องจะดีเลย์ถึง 6 ชั่วโมง แต่เราก็ยังอยากจะกลับมาที่นี่อีกครั้ง

ส่วนลด 890 บาท
คูปอง

ส่วนลด 890 บาทเมื่อจองกิจกรรมยุโรปและอเมริกา 9,000 บาทขึ้นไป

More Less
หมดอายุ 08/31/2019
คุณ
คุณ
เจ้าของเพจเที่ยวตามใจคุณนะครับ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคน หวังว่าบทความท่องเที่ยวที่เขียนขึ้นมาจะเป็นประโยชน์นะครับ แล้วมาคุยกันนะครับ

บทความน่าสนใจ