fbpx
Homeเที่ยวอเมริกาChicagoพาเที่ยว ชิคาโก้ (Chicago) เมืองดีๆ ที่ลงตัวที่สุดในอเมริกา

พาเที่ยว ชิคาโก้ (Chicago) เมืองดีๆ ที่ลงตัวที่สุดในอเมริกา

Klook.com
- Advertisement -
- Advertisement -

หลังจากไปเที่ยวชิคาโก้กับโอ้ปป้า เมื่อคราวที่แล้ว ยังรู้สึกประทับใจกับ Chicago ไม่หาย กลับบ้านไปเมาส์ให้เพื่อนฟังหลายรอบ สุดท้ายก็ชวนเพื่อนมาเที่ยวชิคาโก้าในหน้าร้อนอีกทีจนได้ และบรรยากาศเมืองชิคาโก้ในหน้านี้ช่างสวยงามกว่าตอนหน้าหนาวมากๆ ไปอ่านบทความกันเลย!

ถ้าหากคุณกำลังมองหาตั๋วเที่ยวสถานที่สำคัญในชิคาโก้ ลองพิจารณา GO Chicago Card ดูครับ เป็นบัตรที่คุ้ม ได้เที่ยวสถานที่สำคัญต่าง ๆ ได้สะดวก และประหยัดมาก > ดูตั๋ว GO Chicago คลิกที่นี่

การเดินทางและที่พักในชิคาโก้

เราทำการซื้อตั๋วเครื่องบินและจองโรงแรมเรียบร้อย ค่าใช้จ่ายในส่วนของตั๋วเครื่องบินรวมๆประมาณ 200$ เนื่องจากจองในช่วงลดราคาพอดี และโรงแรมก็นอนเป็น Hostel, Airbnb ก็ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปบ้าง

ถึงวันที่เริ่มออกเดินทาง เราออกจาก Denver เวลาตี 4  สลึมสลือ เจ๊ตุ๊กผู้ใหญ่ใจดี ตื่นแต่เช้าทำแซนวิชมาให้พวกเรากินกันด้วย น่ารักจุงเบย

พวกเราเดินทางถึง Chicago ประมาณ 10.00 ก็ได้ฤกษ์ซื้อตั๋วรถไฟแบบ 3 วัน ราคา 20$  แล้วก็ลุยเข้าเมืองกันเลย

เรามีกระเป๋าคนละใบ ก็เลยเอาของไปเก็บที่ Hostel ก่อน ซึ่งเราพักที่ Hi Hostel อยู่ใกล้ State Street มาก ซึ่งเป็นเหมือนดาวทาวน์ของเมืองนี้เลยหละ Hostel นี้ ต้องเอากุญแจมาเอง เพื่อมาล็อคล็อคเกอร์ฝากของก่อนเช็คอิน

Hostel ที่เราเลือกเป็นแบบสี่คน ห้องก็จะเงียบ ไม่วุ่นวายมากนัก ค่อนข้างสะอาด และมีห้องอาบน้ำและห้องขับถ่ายแยกกัน ทำให้ไม่ต้องแย่งกัน


นี่คือประสบการณ์การนอน Hostel ของเราครั้งแรก ด้วยความที่เรื่องมาก เรื่องความสะอาด เรื่องเสียง เนื่องจากเป็นคนไวต่อเสียงมาก ถ้ามีเสียงนิดหน่อย ก็ตื่นแล้ว แต่ประสบการณ์ครั้งนี้คือโอเคเลยหละ ให้  8/10 ถึงแม้ว่าจะมีเสียงกรนของคนร่วมห้อง ที่ดังเหมือนรถไฟไอน้ำ แต่ก็พอไหว ถ้าเทียบกับค่าใช้จ่ายแล้ว

ส่วนเพื่อนร่วมห้องก็เป็นคนแก่สองคน กับหนุ่มชาวยุโรปหนึ่งคน
เราคุยกันได้นิดหน่อย เพราะเค้ากลับดึก เราก็ออกเช้า
นี่คือความดีงามของการนอนโฮสเทล คือได้เจอคนใหม่ๆนี่เอง

HI Hostel มีอาหารเช้าให้กินฟรีด้วยน๊ะจ๊ะ เป็นขนมปัง ซีเรียล ชีส น้ำส้ม ประมาณนี้
ถ้าสนใจลองดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คลิก

สถานที่เที่ยวชิคาโก้ ที่สามารถขับจักรยานเที่ยวด้วยตัวเองใน Chicago

Buckingham Fountain

วันแรกเราเริ่มตะลุย  Chicago โดยเริ่มจาก Buckingham Fountain ซึ่งเป็นหนึ่งในน้ำพุที่ใหญ่ที่สุดในโลก น้ำที่ยิงขึ้นไปคือสูงมาก น้ำพุจะเปิดในข่วงเดือนเมษายนจนถึงตุลาคม ตั้งแต่เวลา 8.00  ถึง 23.00  เท่านั้นนะจ๊ะ ช่วงหน้าหนาวที่เรามาครั้งที่แล้วก็อดดู  คือมันยิ่งใหญ่จริงๆ




Abraham Lincoln

เดินไปอีกนิดหน่อยก็จะเจอกับ  Abraham Lincoln ที่ซ่อนตัวอยู่ในสวนเล็กๆ
คือตลกมาก หนึ่งในผู้ร่วมทริปนางมาขอพร บนบานศาลกล่าวเอาไว้ ว่าอยากอยู่ที่อเมริกา
ก็ขอให้ท่านช่วยนางด้วยเถิด เราบอกกับนางว่านี่เธอโชคดีนะที่บังเอิญมาเจอ ถ้าตั้งใจมาหาต้องไม่เจอแน่ๆ แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะวันสุดท้ายเรามาหา Abraham Lincoln อีกครั้ง หาเท่าไรก็ไม่เจอ สุดท้ายต้องใช้ Google Map เป็นที่พึ่งละกัน

The Bean

หลังจากที่เราเดินเรื่อยเปื่อยมาจนถึง Millennial Park ซึ่งเป็นที่ตั้งของ The Bean อันเรื่องชื่อ ซึ่งเป็นผลงานศิลปะที่มีชื่อเสียงมากที่ Chicago ใครมา ก็ต้องมาถ่ายรูปกับเจ้านี่


แต่บอกเลยว่าคนเยอะมากๆ ถ่ายมุมไหนก็มีแต่คนๆเต็มไปหมด ดังนั้นวันนี้จึงไม่ใช่วันของเรา
เราเตรียมแผนแหกขี้ตามาถ่ายตอนเช้าวันสุดท้ายก็แล้วกัน

BP bridge

ข้างหลังของ The bean จะมี BP bridge ซึ่งเป็นทางโค้งๆสร้างอยู่บน Jay Prtizker Pavillion ซึ่งเป็นที่แสดงงานดนตรี ถ้ามีโอกาสอยากให้ลองเดินขึ้นไป จะได้เห็นวิวเมือง ซึ่งสวยงามจริงๆ



อีกเส้นทางหนึ่งชื่อว่า Nichols Bridgeway เป็นทางที่ถูกสร้างไปหา Art Institute ชั้น 3 มันพึ่งเปิดให้ใช้งานเมื่อปี 2009 คือ พอเดินขึ้นไป จะเห็นตึกของเมืองเรียงรายเป็นระเบียบ ได้เก็บภาพสวยๆ มาด้วยละ



ตอนนี้ก็ได้เวลาแล้ว พวกเราเริ่มหิวและหมดแรง เราเลือกไปกินอาหารไทยที่ร้าน  Silver Spoon  ซึ่งอยู่ใน Magnificent Mile ซึ่งเป็นแหล่งช็อปปิ้งของเมืองนี้เลยก็ว่าได้  ร้านอาหารเป็นร้านเล็กๆ อาหารโอเค ราคาไม่แพงมาก ถ้าใครคิดถึงอาหารไทยแล้วไม่อยากเดินทางไกล ก็ลองมาดูนะจ๊ะ

Magnificent Mile

หลังจากทานอาหารเรียบร้อยแล้ว เราก็เดินช้อปปิ้งกันต่อที่ Magnificent Mile ช่วงนี้เค้ามีการจัดดอกไม้สวยงามตามท้องถนน
ดอกทิวลิปสีชมพู สีขาว เต็มไปหมด ให้ความรู้สึกสดชื่นมากๆ
เหมือนในหนังเรื่อง Sex and the city ที่เดินอยู่ในเมือง แล้วมีดอกไม้สวยๆแบบนี้ มันใช่เลยอะ ฟีลนี้เลย

Riverwalk

แล้วก็เดินไปเรื่อยๆจนถึง River Walk ซึ่งเป็นทางเดินเรียบแม่น้ำ เห็นบรรยากาศตึกข้างแม้น้ำ

มันยิ่งใหญ่จริงๆ ตึกที่ Chicago มันพิเศษตรงที่ มันมีการผสมระหว่างตึกโบราณกับโมเดิร์น
เนื่องจากเมืองนี้เคยเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ สถาปนิกทั่วโลกก็เดินทางมา  Chicago เพื่อออกแบบและวางผังเมืองให้สวยงามอย่างทุกวันนี้

ถึงแม้ว่าเราจะเห็นที่นี่เป็นครั้งที่สอง แต่เรายังรู้สึกตื่นเต้นนะ คือมันสวยจริงๆ ไม่ว่าจะมากี่ครั้งก็ไม่เบื่อ



เจ้าตึกที่ใครเห็นก็ต้องพูดถึง ด้วยรูปทรงที่ประหลาด มันคือ The marina City ซึ่งเป็นทั้งคอนโดและอาคารสำนักงาน มันสร้างเสร็จในปี 1964 ก่อนหลายๆคนจะเกิดซะอีก

Navy Pier, Chicago

เราเดินเล่นกันได้สักพักถึงประมาณ 4 โมงเย็น เราก็คุยกันว่า วันนี้จะทำอะไรต่อ เราเลือกไปที่ Navy Pier ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของเมืองนี้ อากาศช่วงที่เราไปค่อนข้างหนาว ลมแรง ทำให้เดินเล่น Navy Pier ไม่ค่อยสนุกซักเท่าไร

สัญลักษณ์ของ Navy Pier คือเจ้า Ferris Wheel นี่แหละ แต่นตอนนี้มันปิดปรับปรุงอยู่ ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะใช้งานได้




ข้างๆ Navy Pier จะมีสวนที่ชื่อว่า  Olive Garden จะเป็นสวนที่เห็นวิวเมืองของชิคาโก้ และตั้งอยู่ติดกับหาดและทะเลสาบ ให้ความรู้สึกเหมือนมาทะเลเลยหละ
พวกเราอยู่เมือง Denver ซึ่งมีแต่ป่าแต่เขา พอมาเจอหาดทรายแบบนี้ รู้สึกตื่นเต้น รีบวิ่งลงหาดทรายแบบไม่คิดชีวิตเลยหละ

การกลับมา Chicago ของเราในช่วงนี้คือเราต้องการมานั่งเรือ Architecture Boat Tour ซึ่งเป็นเรือที่จะพาไปดูสิ่งก่อนสร้างริมแม่น้ำและเล่าประวัติของเมืองให้ฟัง ว่าแต่ละตึกมีความเป็นมาอย่างไร
ค่านั่งเรือตกประมาณคนละ 41$ วันที่เราไปนั่งเรือคือหนาวมาก ลมแรง เป็นประสบการณ์ที่แย่สุดๆ เราไม่มีกระจิดกระใจมานั่งฟังว่าเค้าพูดอะไรเลย ได้แต่ชมบรรยากาศไปพลางๆ เราต้องนั่งทนหนาวกันกว่า 90นาที
ถ้าใครอยากจะชมเมือง ลองหาวันที่อากาศอุ่นๆ ใส่เสื้อหนาๆไปกันดูนะ น่าจะได้ประสบกาณ์ที่ดีกว่านี้


วันที่สองของทริป พวกเราแต่ละคนมีจุดหมายที่ต่างกัน หนึ่งในผู้ร่วมทริปต้องการไปดู Museum เนื่องจากเมืองนี้มีชื่อเสียงมากในหลายๆที่อย่างเช่น Shedd Aquarium, Field Museum, Art Institute of Chicago และอีกมากมาย
ส่วนตัวเราและเพื่อนอีกคน ไม่ได้อินในเรื่องของ Museum เราเลยแยกไปเดินเที่ยวเล่นกัน
และที่ขาดไม่ได้กับการมาเมืองนี้ต้องกิน Deep Dish Pizza และร้านที่มีชื่อเสียงที่สุดคือร้าน Giordano’s
เจ้าพิซซ่า ชิคาโก้ชนิดนี้คือมีขอบหนา กรอบ และตัวพิซซ่าจะแปะด้วยชีสแผ่นหนาตลอดชิ้น ทำให้กินไปตรงไหนก็เจอแต่ชีส
ส่วนหน้าต่างๆ เราสามารถเลือกได้เองและโรยหน้าด้วยมะเขือเทสสุดจี้ด ส่วนตัวเราชอบเนื้อและถานของพิซซ่า มัน Cheesy มาก แต่ขอบเราไม่ชอบสักเท่าไร เนื่องจากมันแข็งไป แต่เพื่อนเรากลับชอบซะงั้น

หลังจากกินพิซซ่า ชิคาโก้เรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องมาทำร้ายตัวเองด้วยการปั่นจักรยาน ออกกำลังกายกันหน่อย
เราเลือกใช้จักรยาน  Divvy โดยเลือกซื้อแบบ 24 Hours Pass ราคา 9$ คือขี่ได้ 24 ชั่วโมง แต่ต้องคืนทุกๆ 30 นาที มิเช่นนั่นจะต้องจ่ายค่าเกินเวลา  1-2$ แล้วแต่เวลาที่เกิน
การขี่จักรยานจะต้องขี่ร่วมกับรถบนถนน ซึ่งเราว่าค่อนข้างอันตรายเลยหละ คนที่นี่ขับรถกันเร็ว บีบแตรกันสนั่น ถ้าเป็นไปได้ เราแนะนำให้ขับจาก Navy Pier ดีกว่า อย่าขี่ในเมือง


เมืองชิคาโก้ถือเป็นเมืองสำหรับคนที่รักเพศเดียวกันเลยหละ เดินไปทางไหนก็เจอแต่ ผช-ผช เดินจับมือกัน
แต่นี่ อย่าบอกนะ ขนาดเป็ดตัวผู้ยังอยู่ด้วยกันเลย โอ้มายก๊อด ทำไมทำร้ายคนโสดขนาดนี้

การขี่จักรยานวันนั้น อากาศหนาว ลมแรงอย่างที่บอก ทำให้เราเป็นหวัด อาการไม่ดีเลยหละ

จุดชมวิว Sky Deck ที่ Willis Tower

หลังจากที่ขี่จักรยานกันเสร็จแล้ว พวกเราก็นัดไปเจอกันที่ Willis Tower ที่ Sky Deck ซึ่งเป็นจุดชมวิวยอดนิยม ที่นี่จะมีกระจกใสยื่นออกไปจากตัวตึก หวาดเสียวดีแท้ๆ  การขึ้นตึกในวันที่อากาศแจ่มใส ไม่มีเมฆแบบนี้ ทำให้คนขึ้นมากันอย่างล้นหลาม จึงทำให้การถ่ายรูปลำบาก ต้องต่อแถวถ่ายรูปไม่ต่ำกว่า 20 นาที และนี่ก็คือบรรยากาศช่วงก่อนพระอาทิตย์ตก



เรานั่งรอ นอนรอกันสักพักใหญ่ จนได้เวลาเพราะอาทิตย์ตกดิน และนี่คือบรรยากาศหลังจากพระอาทิตย์ตกดิน มันสวยงามแปลกตาดีจริงๆ


และแล้วพวกเราก็กลับบ้านนอน

The Bean หรือ Cloud Gate ศิลปะที่เป็นแลนด์มาร์คของเมือง Chicago

และวันสุดท้ายของ Chicago ก็มาถึง อย่างที่เราบอก เราต้องกลับมาถ่ายรูปกับ The Bean ให้ได้
พวกเราแหกขี้ตาตื่นขึ้นมาตั้งแต่ 7 โมงเช้า รีบล้างหน้าแปรงฟัน ตรงดิ่งไปที่ The Bean โชคดีมาก วันที่เราไปเป็นวันอังคาร
ไม่มีคนตื่นเช้ามาเที่ยวสักเท่าไร ก็เลยได้รูปสวยๆมาฝากเพื่อนๆ


ถ้าหากใครกำลังวางแผนที่จะมาเที่ยวชิคาโก้ ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็อย่าพลาดที่จะมาเที่ยวตามสถานที่และทำกิจกรรมตามที่แนะนำไป เพราะเมืองนี้สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี กิจกรรมต่างๆ ในแต่ละฤดูก็ต่างกัน และให้ฟีลที่ต่างกันออกไป เมือชิคาโก้นี้ผมขอแนะนำครับ!

ส่วนลด 890 บาท
คูปอง

ส่วนลด 890 บาทเมื่อจองกิจกรรมยุโรปและอเมริกา 9,000 บาทขึ้นไป

More Less
หมดอายุ 08/31/2019
คุณ
คุณ
เจ้าของเพจเที่ยวตามใจคุณนะครับ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคน หวังว่าบทความท่องเที่ยวที่เขียนขึ้นมาจะเป็นประโยชน์นะครับ แล้วมาคุยกันนะครับ

บทความน่าสนใจ